"อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 16 สิงหาคม ฉีดวัคซีนแล้ว 23,592,227 โดส และทั่วโลกแล้ว 4,711 ล้านโดส ใน 203 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 207.86 ล้านโดส โดยจังหวัดของไทยที่ฉีดมากที่สุด คือ กรุงเทพฯ โดยฉีดวัคซีนเข็มแรกกว่า 77.5%”
➡️(16 สิงหาคม 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 4,711 ล้านโดส ใน 203 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 38.2 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 356 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 168 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 207.86 ล้านโดส โดยสิงคโปร์ฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (76.6% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 82.21 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 16 สิงหาคม 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 23,592,227 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 54.62%
? ในการฉีดวัคซีน จำนวน 4,711 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 16 สิงหาคม 2564
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 23,592,227 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 17,996,826 โดส (27.2% ของประชากร)
-เข็มสอง 5,109,476 โดส (7.7% ของประชากร)
-เข็มสาม 485,925 โดส (0.7% ของประชากร)
2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.- 16 ส.ค. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 23,592,227 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 162,511 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 417,086 โดส/วัน
3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
- เข็มที่ 1 7,736,950 โดส
- เข็มที่ 2 3,448,333 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน AstraZeneca
- เข็มที่ 1 8,825,233 โดส
- เข็มที่ 2 1,063,244 โดส
- เข็มที่ 3 195,520 โดส
วัคซีน Sinopharm
- เข็มที่ 1 1,370,931 โดส
- เข็มที่ 2 574,806 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน Pfizer
- เข็มที่ 1 63,712 โดส
- เข็มที่ 2 23,093 โดส
- เข็มที่ 3 290,311 โดส
4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
- บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 120% เข็มที่2 103.5% เข็มที่3 68.2%
- เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่1 51.4% เข็มที่2 30.9% เข็มที่3 0%
- อสม เข็มที่1 56.3% เข็มที่2 25.6% เข็มที่3 0%
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่1 37.2% เข็มที่1 6.6% เข็มที่3 0%
- ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 33.2% เข็มที่2 9.7% เข็มที่3 0%
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 34.6% เข็มที่2 2.8% เข็มที่3 0%
- หญิงตั้งครรภ์ เข็มที่1 2.1% เข็มที่2 0.1% เข็มที่3 0%
รวม เข็มที่1 36% เข็มที่2 10.2% เข็มที่3 1%
5. จังหวัดที่ฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 แบ่งเป็น 2 ชุดข้อมูล
กรุงเทพฯ และปริมณฑล เข็มที่1 56.2% เข็มที่2 13% เข็มที่3 0.9% ประกอบด้วย
- กรุงเทพฯ เข็มที่1 77.5% เข็มที่2 16.8% เข็มที่3 1.4%
- สมุทรสาคร เข็มที่1 35.4% เข็มที่2 13.8% เข็มที่3 0.5%
- นนทบุรี เข็มที่1 36.3% เข็มที่2 12% เข็มที่3 0.6%
- สมุทรปราการ เข็มที่1 37% เข็มที่2 7.3% เข็มที่3 0.4%
- ปทุมธานี เข็มที่1 32.8% เข็มที่2 7.3% เข็มที่3 0.4%
- นครปฐม เข็มที่1 21.2% เข็มที่2 5.3% เข็มที่3 0.6%
จังหวัดอื่น ๆ 71 จังหวัด เข็มที่1 16.9% เข็มที่2 5.6% เข็มที่3 0.6%
- ชลบุรี เข็มที่1 28.8% เข็มที่2 9.2% เข็มที่3 0.9%
- พระนครศรีอยุธยา เข็มที่1 17.1% เข็มที่2 4.4% เข็มที่3 0.4%
- สงขลา เข็มที่1 23% เข็มที่2 7.4% เข็มที่3 1.1%
- ยะลา เข็มที่1 26.8% เข็มที่2 7.8% เข็มที่3 0.6%
- ปัตตานี เข็มที่1 19.8% เข็มที่2 6.1% เข็มที่3 0.4%
- ฉะเชิงเทรา เข็มที่1 39.6% เข็มที่2 5.5% เข็มที่3 0.6%
6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 207,869,781 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 82,215,031 โดส (19.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. มาเลเซีย จำนวน 27,810,855 โดส (52.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
3. ฟิลิปปินส์ จำนวน 27,806,881 โดส (13.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
4. ไทย จำนวน 23,592,227 โดส (27.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
5. กัมพูชา จำนวน 16,439,470 โดส (54.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
6. เวียดนาม จำนวน 14,434,017 โดส (13.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
7. สิงคโปร์ จำนวน 8,676,878 โดส (76.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
8. พม่า จำนวน 3,500,000 โดส (N/A* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
9. ลาว จำนวน 3,180,037 โดส (23.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 214,385 โดส (36.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร/2 เหมือนกันทุกประเทศ
7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 66.74%
2. อเมริกาเหนือ 11.19%
3. ยุโรป 13.40%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 6.53%
5. แอฟริกา 1.74%
6. โอเชียเนีย 0.40%
8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 1,853.84 ล้านโดส (66.2% ของจำนวนการฉีดทั่วโลก)
2. อินเดีย จำนวน 543.85 ล้านโดส (19.9%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 356.43 ล้านโดส (55.7%)
4. บราซิล จำนวน 163.45 ล้านโดส (39.9%)
5. ญี่ปุ่น จำนวน 108.18 ล้านโดส (42.9%)
9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. มัลดีฟส์ (85.2% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
2. บาห์เรน (81.5%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
3. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (80.8%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
4. สิงคโปร์ (76.6%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)
5. กาตาร์ (73.2%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
6. อุรุกวัย (71.3%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
7. เดนมาร์ก (69.9%) (ฉีดวัคซีนของ Moderna, Pfizer/BioNTech และ J&J)
8. ชิลี (69.8%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
9. แคนาดา (68.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford Moderna และ Pfizer/BioNTech)
10. ภูฏาน (68.4%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Moderna)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
ที่มาข้อมูล : สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
เผยแพร่โดย : นางสาวสุวดี เหมือนอ้น
กลุ่มสื่อสารองค์กร กองกลาง
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
โทรศัพท์ 0 2333 3700 ต่อ 3880 โทรสาร 0 2333 3834
Facebook : @MHESIThailand
Twitter : @MHESIThailand
Call Center โทร.1313
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.