"อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 18 สิงหาคม ฉีดวัคซีนแล้ว 24,618,749 โดส และทั่วโลกแล้ว 4,783 ล้านโดส ใน 203 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 215.3 ล้านโดส โดยจังหวัดของไทยที่ฉีดมากที่สุด คือ กรุงเทพฯ โดยฉีดวัคซีนเข็มแรกกว่า 79.1%”
➡️(18 สิงหาคม 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 4,783 ล้านโดส ใน 203 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 37.3 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 356 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 168 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 215.3 ล้านโดส โดยสิงคโปร์ฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (76.6% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 85.53 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 18 สิงหาคม 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 24,618,749 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 54.80%
? ในการฉีดวัคซีน จำนวน 4,783 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 18 สิงหาคม 2564
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 24,618,749 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 18,726,405 โดส (28.3% ของประชากร)
-เข็มสอง 5,381,676 โดส (8.1% ของประชากร)
-เข็มสาม 510,668 โดส (0.8% ของประชากร)
2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.- 16 ส.ค. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 24,618,749 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 518,118 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 414,006 โดส/วัน
3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
- เข็มที่ 1 8,165,350 โดส
- เข็มที่ 2 3,450,819 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน AstraZeneca
- เข็มที่ 1 8,982,285 โดส
- เข็มที่ 2 1,264,314 โดส
- เข็มที่ 3 198,749 โดส
วัคซีน Sinopharm
- เข็มที่ 1 1,489.788 โดส
- เข็มที่ 2 641,516 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน Pfizer
- เข็มที่ 1 88,982 โดส
- เข็มที่ 2 25,027 โดส
- เข็มที่ 3 311,919 โดส
4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
- บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 120.7% เข็มที่2 104.3% เข็มที่3 71.7%
- เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่1 52.2% เข็มที่2 31.4% เข็มที่3 0%
- อสม เข็มที่1 57.7% เข็มที่2 26.3% เข็มที่3 0%
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่1 39% เข็มที่1 7% เข็มที่3 0%
- ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 34.6% เข็มที่2 10.3% เข็มที่3 0.1%
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 36.1% เข็มที่2 3.2% เข็มที่3 0%
- หญิงตั้งครรภ์ เข็มที่1 2.7% เข็มที่2 0.2% เข็มที่3 0%
รวม เข็มที่1 37.5% เข็มที่2 10.8% เข็มที่3 1%
5. จังหวัดที่ฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 เข็มที่ 2 และเข็มที่ 3 แบ่งเป็น 2 ชุดข้อมูล
กรุงเทพฯ และปริมณฑล เข็มที่1 57.7% เข็มที่2 13.7% เข็มที่3 1% ประกอบด้วย
- กรุงเทพฯ เข็มที่1 79.1% เข็มที่2 17.6% เข็มที่3 1.5%
- สมุทรสาคร เข็มที่1 36.5% เข็มที่2 14.6% เข็มที่3 0.5%
- นนทบุรี เข็มที่1 36.8% เข็มที่2 12.6% เข็มที่3 0.6%
- สมุทรปราการ เข็มที่1 38.7% เข็มที่2 7.7% เข็มที่3 0.5%
- ปทุมธานี เข็มที่1 35.1% เข็มที่2 7.9% เข็มที่3 0.4%
- นครปฐม เข็มที่1 22.5% เข็มที่2 5.7% เข็มที่3 0.6%
จังหวัดอื่น ๆ 71 จังหวัด เข็มที่1 17.8% เข็มที่2 5.9% เข็มที่3 0.9%
- ชลบุรี เข็มที่1 30.6% เข็มที่2 9.6% เข็มที่3 0.9%
- พระนครศรีอยุธยา เข็มที่1 18.7% เข็มที่2 5% เข็มที่3 0.4%
- สงขลา เข็มที่1 24% เข็มที่2 7.8% เข็มที่3 1.1%
- ยะลา เข็มที่1 27.5% เข็มที่2 8.9% เข็มที่3 0.6%
- ปัตตานี เข็มที่1 20.8% เข็มที่2 6.5% เข็มที่3 0.5%
- ฉะเชิงเทรา เข็มที่1 41.5% เข็มที่2 5.7% เข็มที่3 0.5%
6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 215,307,491 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 85,538,690 โดส (20.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. มาเลเซีย จำนวน 28,837,742 โดส (53.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
3. ฟิลิปปินส์ จำนวน 28,308,493 โดส (14.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
4. ไทย จำนวน 24,618,749 โดส (28.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
5. กัมพูชา จำนวน 16,953,268 โดส (54.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
6. เวียดนาม จำนวน 15,271,562 โดส (14.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
7. สิงคโปร์ จำนวน 8,676,878 โดส (76.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
8. พม่า จำนวน 3,500,000 โดส (N/A* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
9. ลาว จำนวน 3,371,785 โดส (24.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 230,324 โดส (38.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร/2 เหมือนกันทุกประเทศ
7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 66.82%
2. อเมริกาเหนือ 11.12%
3. ยุโรป 13.31%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 6.56%
5. แอฟริกา 1.79%
6. โอเชียเนีย 0.4%
8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 1,875.37 ล้านโดส (67% ของจำนวนการฉีดทั่วโลก)
2. อินเดีย จำนวน 554,73 ล้านโดส (20.3%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 357.89 ล้านโดส (55.9%)
4. บราซิล จำนวน 168,16 ล้านโดส (41%)
5. ญี่ปุ่น จำนวน 111.05 ล้านโดส (44%)
9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. มัลดีฟส์ (86.7% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
2. บาห์เรน (81.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
3. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (81.2%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
4. สิงคโปร์ (76.6%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)
5. กาตาร์ (74.5%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
6. อุรุกวัย (72.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
7. ชิลี (69.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
8. เดนมาร์ก (70.7%) (ฉีดวัคซีนของ Moderna, Pfizer/BioNTech และ J&J)
9. แคนาดา (69%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford Moderna และ Pfizer/BioNTech)
10. อิสราเอล (68.6%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
ที่มาข้อมูล : สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
เผยแพร่โดย : นางสาวสุวดี เหมือนอ้น
กลุ่มสื่อสารองค์กร กองกลาง
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
โทรศัพท์ 0 2333 3700 ต่อ 3880 โทรสาร 0 2333 3834
Facebook : @MHESIThailand
Twitter : @MHESIThailand
Call Center โทร.1313
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.