"อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 20 สิงหาคม ฉีดวัคซีนแล้ว 25,818,666 โดส และทั่วโลกแล้ว 4,859 ล้านโดส ใน 203 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 222.2 ล้านโดส โดยจังหวัดของไทยที่ฉีดมากที่สุด คือ กรุงเทพฯ โดยฉีดวัคซีนเข็มแรกกว่า 81.4%”
➡️(20 สิงหาคม 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 4,859 ล้านโดส ใน 203 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 37.3 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 360 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 170 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 222.2 ล้านโดส โดยสิงคโปร์ฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (76.7% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 87.63 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 20 สิงหาคม 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 25,818,666 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 55.01%
? ในการฉีดวัคซีน จำนวน 4,859 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 20 สิงหาคม 2564
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 25,818,666 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 19,586,009 โดส (29.6% ของประชากร)
-เข็มสอง 5,705,200 โดส (8.6% ของประชากร)
-เข็มสาม 527,457 โดส (0.8% ของประชากร)
2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.- 20 ส.ค. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 25,818,666 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 651,606 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 472,465 โดส/วัน
3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
- เข็มที่ 1 8,644,697 โดส
- เข็มที่ 2 3,454,373 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน AstraZeneca
- เข็มที่ 1 9,179,236 โดส
- เข็มที่ 2 1,517,154 โดส
- เข็มที่ 3 200,639 โดส
วัคซีน Sinopharm
- เข็มที่ 1 1,632,854 โดส
- เข็มที่ 2 706,476 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน Pfizer
- เข็มที่ 1 129,222 โดส
- เข็มที่ 2 27,197 โดส
- เข็มที่ 3 326,818 โดส
4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
- บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 121.3% เข็มที่2 105.1% เข็มที่3 74.1%
- เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่1 53.1% เข็มที่2 31.9% เข็มที่3 0%
- อสม เข็มที่1 59.5% เข็มที่2 27.2% เข็มที่3 0%
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่1 34.6% เข็มที่1 7.4% เข็มที่3 0%
- ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 36.7% เข็มที่2 11.4% เข็มที่3 0%
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 37.8% เข็มที่2 3.8% เข็มที่3 0%
- หญิงตั้งครรภ์ เข็มที่1 3.9% เข็มที่2 0.3% เข็มที่3 0%
รวม เข็มที่1 39.2% เข็มที่2 11.4% เข็มที่3 1.1%
5. จังหวัดที่ฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 เข็มที่ 2 และเข็มที่ 3 แบ่งเป็น 2 ชุดข้อมูล
กรุงเทพฯ และปริมณฑล เข็มที่1 59.7% เข็มที่2 14.4% เข็มที่3 1.1% ประกอบด้วย
- กรุงเทพฯ เข็มที่1 81.4% เข็มที่2 18.5% เข็มที่3 1.5%
- สมุทรสาคร เข็มที่1 37.6% เข็มที่2 15.5% เข็มที่3 0.5%
- นนทบุรี เข็มที่1 37.6% เข็มที่2 13.2% เข็มที่3 0.7%
- สมุทรปราการ เข็มที่1 40.5% เข็มที่2 8.2% เข็มที่3 0.5%
- ปทุมธานี เข็มที่1 37.6% เข็มที่2 8.5% เข็มที่3 0.4%
- นครปฐม เข็มที่1 24% เข็มที่2 6.1% เข็มที่3 0.7%
จังหวัดอื่น ๆ 71 จังหวัด เข็มที่1 18.8% เข็มที่2 6.2% เข็มที่3 0.6%
- ชลบุรี เข็มที่1 32.5% เข็มที่2 10.2% เข็มที่3 1%
- พระนครศรีอยุธยา เข็มที่1 20.4% เข็มที่2 5.7% เข็มที่3 0.4%
- สงขลา เข็มที่1 25.7% เข็มที่2 8.2% เข็มที่3 1.1%
- ยะลา เข็มที่1 28.6% เข็มที่2 9.1% เข็มที่3 0.6%
- ปัตตานี เข็มที่1 21.5% เข็มที่2 6.9% เข็มที่3 0.5%
- ฉะเชิงเทรา เข็มที่1 43% เข็มที่2 6.3% เข็มที่3 0.8%
6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 222,259,277 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 87,634,852 โดส (20.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. มาเลเซีย จำนวน 29,886,548 โดส (54.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
3. ฟิลิปปินส์ จำนวน 29,127,240 โดส (14.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
4. ไทย จำนวน 25,818,666 โดส (29.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
5. กัมพูชา จำนวน 17,442,399 โดส (55.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
6. เวียดนาม จำนวน 16,306,199 โดส (15%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
7. สิงคโปร์ จำนวน 8,678,421 โดส (76.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
8. ลาว จำนวน 3,619,649 โดส (27.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
9. พม่า จำนวน 3,500,000 โดส (N/A* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
10. บรูไน จำนวน 245,303 โดส (40.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร/2 เหมือนกันทุกประเทศ
7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 67.01%
2. ยุโรป 13.22%
3. อเมริกาเหนือ 11.01%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 6.54%
5. แอฟริกา 1.81%
6. โอเชียเนีย 0.41%
8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 1,900.13 ล้านโดส (67.9% ของจำนวนการฉีดทั่วโลก)
2. อินเดีย จำนวน 566.49 ล้านโดส (20.7%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 359.62 ล้านโดส (56.2%)
4. บราซิล จำนวน 168.16 ล้านโดส (41%)
5. ญี่ปุ่น จำนวน 114.66 ล้านโดส (45.4%)
9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. มัลดีฟส์ (87.9% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
2. บาห์เรน (82.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
3. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (81.7%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
4. สิงคโปร์ (76.6%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)
5. กาตาร์ (75.2%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
6. อุรุกวัย (74.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
7. เดนมาร์ก (71.4%) (ฉีดวัคซีนของ Moderna, Pfizer/BioNTech และ J&J)
8. ชิลี (70.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
9. ภูฏาน (69.5%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford Moderna และ Pfizer/BioNTech)
10. แคนาดา (69.4%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
ที่มาข้อมูล : สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
เผยแพร่โดย : นางสาวสุวดี เหมือนอ้น
กลุ่มสื่อสารองค์กร กองกลาง
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
โทรศัพท์ 0 2333 3700 ต่อ 3880 โทรสาร 0 2333 3834
Facebook : @MHESIThailand
Twitter : @MHESIThailand
Call Center โทร.1313
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.