"อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 23 สิงหาคม ฉีดวัคซีนแล้ว 27,038,999 โดส และทั่วโลกแล้ว 4,954 ล้านโดส ใน 203 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 226.20 ล้านโดส โดยจังหวัดของไทยที่ฉีดมากที่สุด คือ กรุงเทพฯ โดยฉีดวัคซีนเข็มแรกกว่า 84.2%”
➡️(23 สิงหาคม 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 4,954 ล้านโดส ใน 203 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 36.2 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 363 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 171 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 226.20 ล้านโดส โดยสิงคโปร์ฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (76.6% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 89.82 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 23 สิงหาคม 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 27,038,999 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 55.52%
? ในการฉีดวัคซีน จำนวน 4,954 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 23 สิงหาคม 2564
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม27,038,999 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 20,430,028 โดส (30.9% ของประชากร)
-เข็มสอง 6,065,003 โดส (9.2% ของประชากร)
-เข็มสาม 543,968 โดส (0.8% ของประชากร)
2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.- 23 ส.ค. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 27,038,999 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 206,820 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 492,409 โดส/วัน
3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
- เข็มที่ 1 9,072,086 โดส
- เข็มที่ 2 3,457,545 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน AstraZeneca
- เข็มที่ 1 9,392,389 โดส
- เข็มที่ 2 1,784,210 โดส
- เข็มที่ 3 203,080 โดส
วัคซีน Sinopharm
- เข็มที่ 1 1,798,886 โดส
- เข็มที่ 2 793,887 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน Pfizer
- เข็มที่ 1 166,667 โดส
- เข็มที่ 2 29,361 โดส
- เข็มที่ 3 340,888 โดส
4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
- บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 121.9% เข็มที่2 105.8% เข็มที่3 76.4%
- เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่1 53.8% เข็มที่2 32.6% เข็มที่3 0%
- อสม เข็มที่1 60.6% เข็มที่2 28.2% เข็มที่3 0%
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่1 36.1% เข็มที่1 6.9% เข็มที่3 0%
- ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 39.6% เข็มที่2 12.2% เข็มที่3 0%
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 39.2% เข็มที่2 4.3% เข็มที่3 0%
- หญิงตั้งครรภ์ เข็มที่1 4.6% เข็มที่2 0.3% เข็มที่3 0%
รวม เข็มที่1 40.9% เข็มที่2 12.1% เข็มที่3 1.1%
5. จังหวัดที่ฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 แบ่งเป็น 2 ชุดข้อมูล
กรุงเทพฯ และปริมณฑล เข็มที่1 62% เข็มที่2 15.1% เข็มที่3 1.1% ประกอบด้วย
- กรุงเทพฯ เข็มที่1 84.2% เข็มที่2 19.3% เข็มที่3 1.6%
- สมุทรสาคร เข็มที่1 38.6% เข็มที่2 15.9% เข็มที่3 0.5%
- นนทบุรี เข็มที่1 38.7% เข็มที่2 13.5% เข็มที่3 0.7%
- สมุทรปราการ เข็มที่1 42.6% เข็มที่2 8.9% เข็มที่3 0.6%
- ปทุมธานี เข็มที่1 40.8% เข็มที่2 9.3% เข็มที่3 0.5%
- นครปฐม เข็มที่1 25.1% เข็มที่2 6.3% เข็มที่3 0.7%
จังหวัดอื่น ๆ 71 จังหวัด เข็มที่1 19.6% เข็มที่2 6.7% เข็มที่3 0.7%
- ชลบุรี เข็มที่1 34% เข็มที่2 11.1% เข็มที่3 1.0%
- พระนครศรีอยุธยา เข็มที่1 22.8% เข็มที่2 6% เข็มที่3 0.4%
- สงขลา เข็มที่1 27.3% เข็มที่2 8.6% เข็มที่3 1.1%
- ยะลา เข็มที่1 29.5% เข็มที่2 9.2% เข็มที่3 0.7%
- ปัตตานี เข็มที่1 22.6% เข็มที่2 7% เข็มที่3 0.5%
- ฉะเชิงเทรา เข็มที่1 45.2% เข็มที่2 7.3% เข็มที่3 0.6%
6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 226,206,966 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 89,825,940 โดส (20.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. มาเลเซีย จำนวน 31,281,193 โดส (55.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
3. ฟิลิปปินส์ จำนวน 30,389,160 โดส (15.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
4. ไทย จำนวน 27,038,999 โดส (30.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
5. กัมพูชา จำนวน 18,079,030 โดส (57.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
6. เวียดนาม จำนวน 16,306,199 โดส (15%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
7. สิงคโปร์ จำนวน 8,740,651 โดส (76.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
8. ลาว จำนวน 3,799,078 โดส (28.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
9. พม่า จำนวน 3,500,000 โดส (N/A* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
10. บรูไน จำนวน 246,716 โดส (41%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร/2 เหมือนกันทุกประเทศ
7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 67.09%
2. อเมริกาเหนือ 10.92%
3. ยุโรป 13.05%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 6.69%
5. แอฟริกา 1.83%
6. โอเชียเนีย 0.42%
8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 1,935.87 ล้านโดส (69.1% ของจำนวนการฉีดทั่วโลก)
2. อินเดีย จำนวน 581.49 ล้านโดส (21.3%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 362.66 ล้านโดส (56.7%)
4. บราซิล จำนวน 176.62 ล้านโดส (43%)
5. ญี่ปุ่น จำนวน 115.74 ล้านโดส (45.9%)
9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. มัลดีฟส์ (87.9% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
2. บาห์เรน (82.3%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
3. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (82.3%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
4. สิงคโปร์ (76.6%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)
5. กาตาร์ (76.1%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
6. อุรุกวัย (75.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
7. ชิลี (73.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
8. เดนมาร์ก (72.2%) (ฉีดวัคซีนของ Moderna, Pfizer/BioNTech และ J&J)
9. อิสราเอล (70.7%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
10. แคนาดา (69.8%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford Moderna และ Pfizer/BioNTech)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
ที่มาข้อมูล : สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
เผยแพร่โดย : นางสาวสุวดี เหมือนอ้น
กลุ่มสื่อสารองค์กร กองกลาง
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
โทรศัพท์ 0 2333 3700 ต่อ 3880 โทรสาร 0 2333 3834
Facebook : @MHESIThailand
Twitter : @MHESIThailand
Call Center โทร.1313
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.