"อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 26 สิงหาคม ฉีดวัคซีนแล้ว 28,835,580 โดส และทั่วโลกแล้ว 5,068 ล้านโดส ใน 203 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 240.13 ล้านโดส โดยจังหวัดของไทยที่ฉีดมากที่สุด คือ กรุงเทพฯ โดยฉีดวัคซีนเข็มแรกกว่า 86.7%”
➡️(26 สิงหาคม 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 5,068 ล้านโดส ใน 203 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 37.4 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 365 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 172 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 240.13 ล้านโดส โดยสิงคโปร์ฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (76.6% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 92.78 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 26 สิงหาคม 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 28,835,580 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 56.02%
? ในการฉีดวัคซีน จำนวน 5,068 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 26 สิงหาคม 2564
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 28,835,580 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 21,669,955 โดส (32.7% ของประชากร)
-เข็มสอง 6,596,785 โดส (10% ของประชากร)
-เข็มสาม 568,840 โดส (0.9% ของประชากร)
2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.- 26 ส.ค. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 28,835,580 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 637,921 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 524,074 โดส/วัน
3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
- เข็มที่ 1 9,792,795 โดส
- เข็มที่ 2 3,461,544 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน AstraZeneca
- เข็มที่ 1 9,560,561 โดส
- เข็มที่ 2 2,210,772 โดส
- เข็มที่ 3 205,664 โดส
วัคซีน Sinopharm
- เข็มที่ 1 2,088,183 โดส
- เข็มที่ 2 888,619 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน Pfizer
- เข็มที่ 1 228,416 โดส
- เข็มที่ 2 35,850 โดส
- เข็มที่ 3 363,176 โดส
4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
- บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 122.7% เข็มที่2 106.9% เข็มที่3 79.9%
- เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่1 54.6% เข็มที่2 33.5% เข็มที่3 0%
- อสม เข็มที่1 62.6% เข็มที่2 29.6% เข็มที่3 0%
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่1 38.5% เข็มที่1 7.7% เข็มที่3 0%
- ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 42.4% เข็มที่2 13.4% เข็มที่3 0%
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 41.5% เข็มที่2 5.2% เข็มที่3 0%
- หญิงตั้งครรภ์ เข็มที่1 5.9% เข็มที่2 0.5% เข็มที่3 0%
รวม เข็มที่1 43.3% เข็มที่2 13.2% เข็มที่3 1.1%
5. จังหวัดที่ฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 แบ่งเป็น 2 ชุดข้อมูล
กรุงเทพฯ และปริมณฑล เข็มที่1 64.6% เข็มที่2 16% เข็มที่3 1.2% ประกอบด้วย
- กรุงเทพฯ เข็มที่1 86.7% เข็มที่2 20.6% เข็มที่3 1.7%
- สมุทรสาคร เข็มที่1 40.7% เข็มที่2 17.1% เข็มที่3 0.5%
- นนทบุรี เข็มที่1 40.5% เข็มที่2 14.4% เข็มที่3 0.7%
- สมุทรปราการ เข็มที่1 45.6% เข็มที่2 10% เข็มที่3 0.6%
- ปทุมธานี เข็มที่1 44.8% เข็มที่2 10.4% เข็มที่3 0.5%
- นครปฐม เข็มที่1 27.1% เข็มที่2 6.8% เข็มที่3 0.7%
จังหวัดอื่น ๆ 71 จังหวัด เข็มที่1 21.1% เข็มที่2 7.4% เข็มที่3 0.7%
- ชลบุรี เข็มที่1 36.8% เข็มที่2 12.6% เข็มที่3 1.0%
- พระนครศรีอยุธยา เข็มที่1 27.4% เข็มที่2 6.8% เข็มที่3 0.4%
- สงขลา เข็มที่1 29.6% เข็มที่2 9.1% เข็มที่3 1.2%
- ยะลา เข็มที่1 31.2% เข็มที่2 9.5% เข็มที่3 0.7%
- ปัตตานี เข็มที่1 23.9% เข็มที่2 7.1% เข็มที่3 0.5%
- ฉะเชิงเทรา เข็มที่1 48.2% เข็มที่2 9.2% เข็มที่3 0.6%
6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 240,133,263 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 92,784,183 โดส (21.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. มาเลเซีย จำนวน 32,635,907 โดส (57.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
3. ฟิลิปปินส์ จำนวน 31,433,450 โดส (16.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
4. ไทย จำนวน 28,835,580 โดส (32.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
5. กัมพูชา จำนวน 18,750,590 โดส (59.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
6. เวียดนาม จำนวน 18,095,473 โดส (16.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
7. สิงคโปร์ จำนวน 8,768,985 โดส (76.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
8. พม่า จำนวน 4,542,363 โดส (5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
9. ลาว จำนวน 4,001,318 โดส (30.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 285,414 โดส (46.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร/2 เหมือนกันทุกประเทศ
7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 67.31%
2. อเมริกาเหนือ 10.78%
3. ยุโรป 12.93%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 6.70%
5. แอฟริกา 1.85%
6. โอเชียเนีย 0.43%
8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 1,975.74 ล้านโดส (70.6% ของจำนวนการฉีดทั่วโลก)
2. อินเดีย จำนวน 595.50 ล้านโดส (21.8%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 364.84 ล้านโดส (57%)
4. บราซิล จำนวน 181.91 ล้านโดส (44.3%)
5. ญี่ปุ่น จำนวน 122.22 ล้านโดส (48.4%)
9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. มัลดีฟส์ (91% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (83%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
3. บาห์เรน (82.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
4. กาตาร์ (77.2%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
5. สิงคโปร์ (76.6%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)
6. อุรุกวัย (76.5%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
7. ชิลี (73.5%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
8. เดนมาร์ก (73%) (ฉีดวัคซีนของ Moderna, Pfizer/BioNTech และ J&J)
9. อิสราเอล (72.4%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
10. จีน (70.6%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac และ CanSino)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
ที่มาข้อมูล : สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
เผยแพร่โดย : นางสาวสุวดี เหมือนอ้น
กลุ่มสื่อสารองค์กร กองกลาง
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
โทรศัพท์ 0 2333 3700 ต่อ 3880 โทรสาร 0 2333 3834
Facebook : @MHESIThailand
Twitter : @MHESIThailand
Call Center โทร.1313
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.