"อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 6 กันยายน ฉีดวัคซีนแล้ว 35,912,894 โดส และทั่วโลกแล้ว 5,484 ล้านโดส ใน 203 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 277.25 ล้านโดส โดยจังหวัดของไทยที่ฉีดมากที่สุด คือ กรุงเทพฯ โดยฉีดวัคซีนเข็มแรกกว่า 92.9%”
➡️(6 กันยายน 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 5,484 ล้านโดส ใน 203 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 38.7 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 374 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 176 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 277.25 ล้านโดส โดยสิงคโปร์ฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (77% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 105.62 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 6 กันยายน 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 35,912,894 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 56.96%
? ในการฉีดวัคซีน จำนวน 5,484 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 6 กันยายน 2564
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 35,912,894 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 25,234,259 โดส (38.1% ของประชากร)
-เข็มสอง 10,074,612 โดส (15.2% ของประชากร)
-เข็มสาม 604,023 โดส (0.9% ของประชากร)
2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.- 6 ก.ย. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 35,912,894 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 325,218 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 708,345 โดส/วัน
3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
- เข็มที่ 1 11,809,505 โดส
- เข็มที่ 2 3,483,139 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน AstraZeneca
- เข็มที่ 1 9,971,895 โดส
- เข็มที่ 2 5,235,369 โดส
- เข็มที่ 3 212,339 โดส
วัคซีน Sinopharm
- เข็มที่ 1 3,070,608 โดส
- เข็มที่ 2 1,260,228 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน Pfizer
- เข็มที่ 1 382,251 โดส
- เข็มที่ 2 95,876 โดส
- เข็มที่ 3 391,684 โดส
4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
- บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 123.9% เข็มที่2 112.3% เข็มที่3 84.8%
- เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่1 56.8% เข็มที่2 39.6% เข็มที่3 0%
- อสม เข็มที่1 66.4% เข็มที่2 39.3% เข็มที่3 0%
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่1 46.3% เข็มที่1 15% เข็มที่3 0%
- ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 50.2% เข็มที่2 19.5% เข็มที่3 0%
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 48.1% เข็มที่2 14.5% เข็มที่3 0%
- หญิงตั้งครรภ์ เข็มที่1 9.7% เข็มที่2 1.4% เข็มที่3 0%
รวม เข็มที่1 50.5% เข็มที่2 20.1% เข็มที่3 1.2%
5. จังหวัดที่ฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 แบ่งเป็น 2 ชุดข้อมูล
กรุงเทพฯ และปริมณฑล เข็มที่1 71.4% เข็มที่2 23.7% เข็มที่3 1.3% ประกอบด้วย
- กรุงเทพฯ เข็มที่1 92.9% เข็มที่2 30.4% เข็มที่3 1.8%
- สมุทรสาคร เข็มที่1 54.1% เข็มที่2 15.9% เข็มที่3 0.6%
- นนทบุรี เข็มที่1 54.3% เข็มที่2 15.7% เข็มที่3 0.5%
- สมุทรปราการ เข็มที่1 48.3% เข็มที่2 22.3% เข็มที่3 0.6%
- ปทุมธานี เข็มที่1 45.6% เข็มที่2 19% เข็มที่3 0.8%
- นครปฐม เข็มที่1 33.7% เข็มที่2 9.8% เข็มที่3 0.7%
จังหวัดอื่น ๆ 71 จังหวัด เข็มที่1 25.6% เข็มที่2 11.5% เข็มที่3 0.7%
- ชลบุรี เข็มที่1 40.3% เข็มที่2 10.6% เข็มที่3 0.5%
- พระนครศรีอยุธยา เข็มที่1 56.5% เข็มที่2 16.2% เข็มที่3 0.6%
- สงขลา เข็มที่1 33.6% เข็มที่2 13.5% เข็มที่3 1.2%
- ยะลา เข็มที่1 47% เข็มที่2 18.1% เข็มที่3 1%
- ปัตตานี เข็มที่1 37.7% เข็มที่2 14.3% เข็มที่3 0.7%
- ฉะเชิงเทรา เข็มที่1 27.7% เข็มที่2 9.7% เข็มที่3 0.5%
6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 277,252,956 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 105,627,444 โดส (24.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. มาเลเซีย จำนวน 36,431,562 โดส (62.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
3. ไทย จำนวน 35,912,894 โดส (38.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
4. ฟิลิปปินส์ จำนวน 35,838,964 โดส (18.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
5. เวียดนาม จำนวน 21,445,181 โดส (18.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
6. กัมพูชา จำนวน 20,835,964 โดส (66.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
7. สิงคโปร์ จำนวน 8,901,796 โดส (77%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
8. พม่า จำนวน 7,530,597 โดส (8.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
9. ลาว จำนวน 4,382,959 โดส (34.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 345,595 โดส (53.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร/2 เหมือนกันทุกประเทศ
7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 67.99%
2. อเมริกาเหนือ 10.35%
3. ยุโรป 12.34%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 6.89%
5. แอฟริกา 1.96%
6. โอเชียเนีย 0.47%
8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 2,100.39 ล้านโดส (75% ของจำนวนการฉีดทั่วโลก)
2. อินเดีย จำนวน 687.40 ล้านโดส (25.1%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 374.49 ล้านโดส (58.5%)
4. บราซิล จำนวน 200.71 ล้านโดส (48.8%)
5. ญี่ปุ่น จำนวน 133.06 ล้านโดส (52.7%)
9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. มัลดีฟส์ (92.3% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (85.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
3. บาห์เรน (84.3%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
4. อุรุกวัย (81.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
5. กาตาร์ (80.8%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
6. อิสราเอล (78.2%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
7. สิงคโปร์ (77%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)
8. ชิลี (77%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
9. จีน (75%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac และ CanSino)
10. เดนมาร์ก (74.7%) (ฉีดวัคซีนของ Moderna, Pfizer/BioNTech และ J&J)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
ที่มาข้อมูล : สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
เผยแพร่โดย : นางสาวสุวดี เหมือนอ้น
กลุ่มสื่อสารองค์กร กองกลาง
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
โทรศัพท์ 0 2333 3700 ต่อ 3880 โทรสาร 0 2333 3834
Facebook : @MHESIThailand
Twitter : @MHESIThailand
Call Center โทร.1313
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.