"อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 7 กันยายน ฉีดวัคซีนแล้ว 36,635,271 โดส และทั่วโลกแล้ว 5,532 ล้านโดส ใน 203 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 280.91 ล้านโดส โดยจังหวัดของไทยที่ฉีดมากที่สุด คือ กรุงเทพฯ โดยฉีดวัคซีนเข็มแรกกว่า 93.4%”
➡️(7 กันยายน 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 5,532 ล้านโดส ใน 203 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 38.7 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 374 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 176 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 280.91 ล้านโดส โดยสิงคโปร์ฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (77% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 107.37 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 7 กันยายน 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 36,635,271 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 57.08%
? ในการฉีดวัคซีน จำนวน 5,532 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 7 กันยายน 2564
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 36,635,271 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 25,554,456 โดส (38.6% ของประชากร)
-เข็มสอง 10,475,325 โดส (15.8% ของประชากร)
-เข็มสาม 605,490 โดส (0.9% ของประชากร)
2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.- 7 ก.ย. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 36,635,271 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 722,377 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 694,779 โดส/วัน
3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
- เข็มที่ 1 12,017,050 โดส
- เข็มที่ 2 3,485,774 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน AstraZeneca
- เข็มที่ 1 9,999,855 โดส
- เข็มที่ 2 5,563,895 โดส
- เข็มที่ 3 212,695 โดส
วัคซีน Sinopharm
- เข็มที่ 1 3,152,636 โดส
- เข็มที่ 2 1,309,667 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน Pfizer
- เข็มที่ 1 384,915 โดส
- เข็มที่ 2 115,989 โดส
- เข็มที่ 3 392,795 โดส
4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
- บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 124% เข็มที่2 112.7% เข็มที่3 85%
- เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่1 57% เข็มที่2 40.1% เข็มที่3 0%
- อสม เข็มที่1 66.6% เข็มที่2 40.3% เข็มที่3 0%
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่1 46.9% เข็มที่1 15.9% เข็มที่3 0%
- ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 50.9% เข็มที่2 20.3% เข็มที่3 0%
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 48.7% เข็มที่2 15.5% เข็มที่3 0%
- หญิงตั้งครรภ์ เข็มที่1 10% เข็มที่2 1.8% เข็มที่3 0%
รวม เข็มที่1 51.1% เข็มที่2 21% เข็มที่3 1.2%
5. จังหวัดที่ฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 แบ่งเป็น 2 ชุดข้อมูล
กรุงเทพฯ และปริมณฑล เข็มที่1 71.9% เข็มที่2 24.5% เข็มที่3 1.3% ประกอบด้วย
- กรุงเทพฯ เข็มที่1 93.4% เข็มที่2 31.4% เข็มที่3 1.9%
- สมุทรสาคร เข็มที่1 54.6% เข็มที่2 16.9% เข็มที่3 0.6%
- นนทบุรี เข็มที่1 55.5% เข็มที่2 16.5% เข็มที่3 0.5%
- สมุทรปราการ เข็มที่1 48.9% เข็มที่2 22.8% เข็มที่3 0.6%
- ปทุมธานี เข็มที่1 45.8% เข็มที่2 19.4% เข็มที่3 0.8%
- นครปฐม เข็มที่1 34.1% เข็มที่2 10.3% เข็มที่3 0.7%
จังหวัดอื่น ๆ 71 จังหวัด เข็มที่1 26% เข็มที่2 11.9% เข็มที่3 0.7%
- ชลบุรี เข็มที่1 41.4% เข็มที่2 11.2% เข็มที่3 0.5%
- พระนครศรีอยุธยา เข็มที่1 56.8% เข็มที่2 17.5% เข็มที่3 0.6%
- สงขลา เข็มที่1 33.9% เข็มที่2 14% เข็มที่3 1.2%
- ยะลา เข็มที่1 47.7% เข็มที่2 18.9% เข็มที่3 1%
- ปัตตานี เข็มที่1 41.4% เข็มที่2 11.2% เข็มที่3 0.5%
- ฉะเชิงเทรา เข็มที่1 39.4% เข็มที่2 15.7% เข็มที่3 0.8%
6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 280,915,257 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 107,374,568 โดส (24.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. มาเลเซีย จำนวน 36,745,313 โดส (63.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
3. ไทย จำนวน 36,635,271 โดส (38.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
4. ฟิลิปปินส์ จำนวน 35,995,813 โดส (18.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
5. เวียดนาม จำนวน 22,012,123 โดส (19.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
6. กัมพูชา จำนวน 20,972,941 โดส (66.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
7. สิงคโปร์ จำนวน 8,912,244 โดส (77%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
8. พม่า จำนวน 7,530,597 โดส (8.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
9. ลาว จำนวน 4,382,959 โดส (34.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 353,428 โดส (53.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร/2 เหมือนกันทุกประเทศ
7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 68.04%
2. อเมริกาเหนือ 10.27%
3. ยุโรป 12.29%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 6.85%
5. แอฟริกา 2.07%
6. โอเชียเนีย 0.48%
8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 2,107.45 ล้านโดส (75.3% ของจำนวนการฉีดทั่วโลก)
2. อินเดีย จำนวน 698.94 ล้านโดส (25.6%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 374.49 ล้านโดส (58.5%)
4. บราซิล จำนวน 201 ล้านโดส (48.8%)
5. ญี่ปุ่น จำนวน 135.69 ล้านโดส (53.8%)
9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. มัลดีฟส์ (92.3% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (85.8%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
3. บาห์เรน (84.4%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
4. อุรุกวัย (82.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
5. กาตาร์ (80.9%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
6. อิสราเอล (78.2%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
7. สิงคโปร์ (77%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)
8. ชิลี (77%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
9. จีน (75.3%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac และ CanSino)
10. เดนมาร์ก (74.7%) (ฉีดวัคซีนของ Moderna, Pfizer/BioNTech และ J&J)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
ที่มาข้อมูล : สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
เผยแพร่โดย : นางสาวสุวดี เหมือนอ้น
กลุ่มสื่อสารองค์กร กองกลาง
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
โทรศัพท์ 0 2333 3700 ต่อ 3880 โทรสาร 0 2333 3834
Facebook : @MHESIThailand
Twitter : @MHESIThailand
Call Center โทร.1313
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.