"อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 10 กันยายน ฉีดวัคซีนแล้ว 38,873,359 โดส และทั่วโลกแล้ว 5,633 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 294.17 ล้านโดส โดยจังหวัดของไทยที่ฉีดมากที่สุด คือ กรุงเทพฯ โดยฉีดวัคซีนเข็มแรกกว่า 94.5%”
➡️(10 กันยายน 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 5,633 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 35 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 378 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 177 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 294.17 ล้านโดส โดยสิงคโปร์ฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (77.2% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 112.04 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 10 กันยายน 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 38,873,359 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 57.39%
? ในการฉีดวัคซีน จำนวน 5,633 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 10 กันยายน 2564
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม38,873,359 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 26,631,261 โดส (40.2% ของประชากร)
-เข็มสอง 11,630,996 โดส (17.6% ของประชากร)
-เข็มสาม 611,102 โดส (0.9% ของประชากร)
2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.- 10 ก.ย. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 38,873,359 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 698,621 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 654,403 โดส/วัน
3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
- เข็มที่ 1 12,737,465 โดส
- เข็มที่ 2 3,492,561 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน AstraZeneca
- เข็มที่ 1 10,072,346 โดส
- เข็มที่ 2 6,480,389 โดส
- เข็มที่ 3 215,850 โดส
วัคซีน Sinopharm
- เข็มที่ 1 3,427,151 โดส
- เข็มที่ 2 1,471,466 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน Pfizer
- เข็มที่ 1 394,299 โดส
- เข็มที่ 2 186,580 โดส
- เข็มที่ 3 395,252 โดส
4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
- บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 124.1% เข็มที่2 113.6% เข็มที่3 85.8%
- เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่1 57.9% เข็มที่2 41.5% เข็มที่3 0%
- อสม เข็มที่1 67.8% เข็มที่2 43.1% เข็มที่3 0%
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่1 49% เข็มที่1 18.4% เข็มที่3 0%
- ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 53.4% เข็มที่2 22.4% เข็มที่3 0%
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 50.6% เข็มที่2 18.4% เข็มที่3 0%
- หญิงตั้งครรภ์ เข็มที่1 10.7% เข็มที่2 2.9% เข็มที่3 0%
รวม เข็มที่1 53.3% เข็มที่2 23.3% เข็มที่3 1.2%
5. จังหวัดที่ฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 แบ่งเป็น 2 ชุดข้อมูล
กรุงเทพฯ และปริมณฑล เข็มที่1 72.9% เข็มที่2 26.1% เข็มที่3 1.3% ประกอบด้วย
- กรุงเทพฯ เข็มที่1 94.5% เข็มที่2 33.8% เข็มที่3 1.9%
- สมุทรสาคร เข็มที่1 57% เข็มที่2 18.6% เข็มที่3 0.6%
- นนทบุรี เข็มที่1 55.6% เข็มที่2 19.5% เข็มที่3 0.5%
- สมุทรปราการ เข็มที่1 50.7% เข็มที่2 24.9% เข็มที่3 0.6%
- ปทุมธานี เข็มที่1 47.5% เข็มที่2 21.6% เข็มที่3 0.8%
- นครปฐม เข็มที่1 35.3% เข็มที่2 12.3% เข็มที่3 0.7%
จังหวัดอื่น ๆ 71 จังหวัด เข็มที่1 27% เข็มที่2 12.9% เข็มที่3 0.7%
- ชลบุรี เข็มที่1 45% เข็มที่2 12.6% เข็มที่3 0.5%
- พระนครศรีอยุธยา เข็มที่1 57.9% เข็มที่2 20.3% เข็มที่3 0.6%
- สงขลา เข็มที่1 51.1% เข็มที่2 20.6% เข็มที่3 1%
- ยะลา เข็มที่1 41.2% เข็มที่2 17.1% เข็มที่3 0.8%
- ปัตตานี เข็มที่1 40% เข็มที่2 15.7% เข็มที่3 0.7%
- ฉะเชิงเทรา เข็มที่1 45% เข็มที่2 12.6% เข็มที่3 0.5%
6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 294,173,678 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 112,043,252 โดส (25.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. ไทย จำนวน 38,873,359 โดส (40.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
3. ฟิลิปปินส์ จำนวน 37,728,114 โดส (19.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
4. มาเลเซีย จำนวน 37,714,587 โดส (64.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
5. เวียดนาม จำนวน 24,781,185 โดส (21.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
6. กัมพูชา จำนวน 21,364,804 โดส (67.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
7. สิงคโปร์ จำนวน 8,940,733 โดส (77.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
8. พม่า จำนวน 7,868,906 โดส (8.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
9. ลาว จำนวน 4,493,535 โดส (35.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 365,203 โดส (53.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร/2 เหมือนกันทุกประเทศ
7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 68.21%
2. อเมริกาเหนือ 10.22%
3. ยุโรป 12.19%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 6.82%
5. แอฟริกา 2.08%
6. โอเชียเนีย 0.48%
8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 2,124.58 ล้านโดส (75.9% ของจำนวนการฉีดทั่วโลก)
2. อินเดีย จำนวน 723.52 ล้านโดส (26.5%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 377.62 ล้านโดส (59%)
4. บราซิล จำนวน 203.93 ล้านโดส (49.5%)
5. ญี่ปุ่น จำนวน 140.30 ล้านโดส (55.6%)
9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. มัลดีฟส์ (93.4% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (87%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
3. บาห์เรน (84.7%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
4. อุรุกวัย (83.4%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
5. กาตาร์ (81.6%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
6. อิสราเอล (78.9%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
7. ชิลี (77.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
8. สิงคโปร์ (77.2%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)
9. จีน (75.9%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac และ CanSino)
10. เดนมาร์ก (75%) (ฉีดวัคซีนของ Moderna, Pfizer/BioNTech และ J&J)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
ที่มาข้อมูล : สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
เผยแพร่โดย : นางสาวสุวดี เหมือนอ้น
กลุ่มสื่อสารองค์กร กองกลาง
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
โทรศัพท์ 0 2333 3700 ต่อ 3880 โทรสาร 0 2333 3834
Facebook : @MHESIThailand
Twitter : @MHESIThailand
Call Center โทร.1313
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.