"อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 30 กันยายน ฉีดวัคซีนแล้ว 51,496,084 โดส และทั่วโลกแล้ว 6,252 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 374.97 ล้านโดส โดยจังหวัดของไทยที่ฉีดมากที่สุด คือ กรุงเทพฯ โดยฉีดวัคซีนเข็มแรกกว่า 99.5%”
➡️(30 กันยายน 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 6,252 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 30.3 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 392 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 186 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 374.97 ล้านโดส โดยสิงคโปร์ฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (78% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 142.19 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 51,496,084 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 59.60%
? ในการฉีดวัคซีน จำนวน 6,252 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 30 กันยายน 2564
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 51,496,084 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 31,785,716 โดส (48% ของประชากร)
-เข็มสอง 18,486,111 โดส (27.9% ของประชากร)
-เข็มสาม 1,224,257 โดส (1.8% ของประชากร)
2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.- 30 ก.ย. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 51,496,084 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 628,586 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 689,508 โดส/วัน
3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
- เข็มที่ 1 15,945,716 โดส
- เข็มที่ 2 3,506,313 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน AstraZeneca
- เข็มที่ 1 10,328,234 โดส
- เข็มที่ 2 11,642,142 โดส
- เข็มที่ 3 743,829 โดส
วัคซีน Sinopharm
- เข็มที่ 1 5,090,247 โดส
- เข็มที่ 2 2,840,159 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน Pfizer
- เข็มที่ 1 421,519 โดส
- เข็มที่ 2 497,497 โดส
- เข็มที่ 3 480,428 โดส
4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
- บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 124.1% เข็มที่2 117.7% เข็มที่3 88.7%
- เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่1 61.3% เข็มที่2 49.3% เข็มที่3 5.7%
- อสม เข็มที่1 71.7% เข็มที่2 55.4% เข็มที่3 5.5%
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่1 59.1% เข็มที่1 33.5% เข็มที่3 0.9%
- ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 66.2% เข็มที่2 36% เข็มที่3 1.2%
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 57.4% เข็มที่2 33.7% เข็มที่3 0.2%
- หญิงตั้งครรภ์ เข็มที่1 13.3% เข็มที่2 7.8% เข็มที่3 0.1%
รวม เข็มที่1 63.6% เข็มที่2 37% เข็มที่3 2.4%
5. จังหวัดที่ฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 แบ่งเป็น 2 ชุดข้อมูล
กรุงเทพฯ และปริมณฑล เข็มที่1 78.8% เข็มที่2 42.1% เข็มที่3 2.7% ประกอบด้วย
- กรุงเทพฯ เข็มที่1 99.5% เข็มที่2 48.9% เข็มที่3 3.6%
- สมุทรสาคร เข็มที่1 62.2% เข็มที่2 37.5% เข็มที่3 1.1%
- นนทบุรี เข็มที่1 64.3% เข็มที่2 36.3% เข็มที่3 1.7%
- สมุทรปราการ เข็มที่1 60.8% เข็มที่2 37.6% เข็มที่3 2.9%
- ปทุมธานี เข็มที่1 50.2% เข็มที่2 35.9% เข็มที่3 2.3%
- นครปฐม เข็มที่1 40.4% เข็มที่2 24.2% เข็มที่3 1.5%
จังหวัดอื่น ๆ 71 จังหวัด เข็มที่1 35.1% เข็มที่2 21.4% เข็มที่3 1.4%
- ฉะเชิงเทรา เข็มที่1 64.6% เข็มที่2 33.2% เข็มที่3 1.1%
- ชลบุรี เข็มที่1 64.6% เข็มที่2 36.5% เข็มที่3 2.3%
- พระนครศรีอยุธยา เข็มที่1 52.2% เข็มที่2 33.1% เข็มที่3 1.2%
- เพชรบุรี เข็มที่1 47% เข็มที่2 33.2% เข็มที่3 2.7%
- ยะลา เข็มที่1 45.8% เข็มที่2 24.6% เข็มที่3 1.1%
- สงขลา เข็มที่1 41.2% เข็มที่2 25.9% เข็มที่3 1.4%
6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 374,979,065 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 142,192,361 โดส (33%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. ไทย จำนวน 51,496,084 โดส (48%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
3. ฟิลิปปินส์ จำนวน 45,147,577 โดส (21.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
4. มาเลเซีย จำนวน 43,367,580 โดส (71.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
5. เวียดนาม จำนวน 41,153,041 โดส (33%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
6. กัมพูชา จำนวน 25,240,684 โดส (78.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
7. พม่า จำนวน 11,590,241 โดส (14.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
8. สิงคโปร์ จำนวน 9,306,870 โดส (78%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
9. ลาว จำนวน 5,010,220 โดส (40.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 474,407 โดส (64.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร/2 เหมือนกันทุกประเทศ
7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 68.75%
2. อเมริกาเหนือ 9.62%
3. ยุโรป 11.27%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.04%
5. แอฟริกา 2.77%
6. โอเชียเนีย 0.55%
8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 2,206.05 ล้านโดส (78.8% ของจำนวนการฉีดทั่วโลก)
2. อินเดีย จำนวน 883.36 ล้านโดส (32.3%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 391.99 ล้านโดส (61.2%)
4. บราซิล จำนวน 234.67 ล้านโดส (56.8%)
5. ญี่ปุ่น จำนวน 162.58 ล้านโดส (64.4%)
9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. มัลดีฟส์ (98% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (93.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
3. คิวบา (90.6%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna J&J และ AstraZeneca/Oxford)
4. อุรุกวัย (88.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
5. บาห์เรน (86.7%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
6. กาตาร์ (84.2%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
7. อิสราเอล (83%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
8. ชิลี (82.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
9. จีน (78.8%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac และ CanSino)
10. สิงคโปร์ (78%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
ที่มา : สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
เผยแพร่โดย : นางสาวสุวดี เหมือนอ้น
กลุ่มสื่อสารองค์กร กองกลาง
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
โทรศัพท์ 0 2333 3700 ต่อ 3880 โทรสาร 0 2333 3834
Facebook : @MHESIThailand
Twitter : @MHESIThailand
Call Center โทร.1313
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.