"อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 2 ตุลาคม ฉีดวัคซีนแล้ว 54,581,395 โดส และทั่วโลกแล้ว 6,308 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 386,15 ล้านโดส โดยจังหวัดของไทยที่ฉีดมากที่สุด คือ กรุงเทพฯ โดยฉีดวัคซีนเข็มแรกกว่า 100.3%”
➡️(2 ตุลาคม 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 6,308 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 31.3 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 394 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 185 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 386,15 ล้านโดส โดยกัมพูชาฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (79.3% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 146,09 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 2ตุลาคม 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 54,581,395 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 59.02%
? ในการฉีดวัคซีน จำนวน 6,308 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 2 ตุลาคม 2564
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 54,581,395 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 32,815,130 โดส (49.6% ของประชากร)
-เข็มสอง 20,355,829 โดส (30.8% ของประชากร)
-เข็มสาม 1,400,436 โดส (2.1% ของประชากร)
2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.- 2 ต.ต. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 54,581,395 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 796,583 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 850,739 โดส/วัน
3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
- เข็มที่ 1 16,556,488 โดส
- เข็มที่ 2 3,508,727 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน AstraZeneca
- เข็มที่ 1 10,388,920 โดส
- เข็มที่ 2 13,152,828 โดส
- เข็มที่ 3 926,263 โดส
วัคซีน Sinopharm
- เข็มที่ 1 5,445,252 โดส
- เข็มที่ 2 3,184,103 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน Pfizer
- เข็มที่ 1 424,470 โดส
- เข็มที่ 2 510,171 โดส
- เข็มที่ 3 484,173 โดส
4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
- บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 127.3% เข็มที่2 120.7% เข็มที่3 90%
- เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่1 63.7% เข็มที่2 53.8% เข็มที่3 7.1%
- อสม เข็มที่1 73.3% เข็มที่2 60.5% เข็มที่3 6.4%
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่1 63.6% เข็มที่1 39.4% เข็มที่3 1.2%
- ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 67.6% เข็มที่2 38.8% เข็มที่3 1.6%
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 59.5% เข็มที่2 38.7% เข็มที่3 0.2%
- หญิงตั้งครรภ์ เข็มที่1 13.9% เข็มที่2 8.5% เข็มที่3 0.1%
รวม เข็มที่1 65.6% เข็มที่2 40.7% เข็มที่3 2.8%
5. จังหวัดที่ฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 แบ่งเป็น 2 ชุดข้อมูล
กรุงเทพฯ และปริมณฑล เข็มที่1 79.9% เข็มที่2 45.5% เข็มที่3 3.3% ประกอบด้วย
- กรุงเทพฯ เข็มที่1 100.3% เข็มที่2 51.9% เข็มที่3 4.2.%
- ปทุมธานี เข็มที่1 63.5% เข็มที่2 42.2% เข็มที่3 1.5%
- สมุทรปราการ เข็มที่1 66.4% เข็มที่2 40% เข็มที่3 1.8%
- สมุทรสาคร เข็มที่1 62.4% เข็มที่2 41.3% เข็มที่3 3.5%
- นนทบุรี เข็มที่1 51.1% เข็มที่2 39.3% เข็มที่3 3.6%
- นครปฐม เข็มที่1 41.3% เข็มที่2 27.8% เข็มที่3 1.9%
จังหวัดอื่น ๆ 71 จังหวัด เข็มที่1 36.6% เข็มที่2 23.8% เข็มที่3 1.6%
- ฉะเชิงเทรา เข็มที่1 66.5% เข็มที่2 36.6% เข็มที่3 1.4%
- ชลบุรี เข็มที่1 66.7% เข็มที่2 41.6% เข็มที่3 3.5%
- พระนครศรีอยุธยา เข็มที่1 53.1% เข็มที่2 37.9% เข็มที่3 1.2%
- เพชรบุรี เข็มที่1 49% เข็มที่2 35.7% เข็มที่3 2.9%
- ยะลา เข็มที่1 46.6% เข็มที่2 28.1% เข็มที่3 1.1%
- สงขลา เข็มที่1 42.5% เข็มที่2 28.2% เข็มที่3 1.5%
6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 386,156,100 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 146,098,059 (33.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. ไทย จำนวน 54,581,395 โดส (49.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
3. ฟิลิปปินส์ จำนวน 45,950,753 โดส (22%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
4. มาเลเซีย จำนวน 43,933,988 (72.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
5. เวียดนาม จำนวน 43,649,818 โดส (34.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
6. กัมพูชา จำนวน 25,385,559 โดส (79.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
7. พม่า จำนวน 11,590,241 โดส (14.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
8. สิงคโปร์ จำนวน 9,380,231 โดส (78%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
9. ลาว จำนวน 5.095,469 โดส (40.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 490,587 โดส (66.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร/2 เหมือนกันทุกประเทศ
7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 68.8%
2. ยุโรป 11.23%
3. อเมริกาเหนือ 9.60%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.06%
5. แอฟริกา 2.76%
6. โอเชียเนีย 0.55%
8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 2,211.45 ล้านโดส (79% ของจำนวนการฉีดทั่วโลก)
2. อินเดีย จำนวน 897.18 ล้านโดส (32.8%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 393.76 ล้านโดส (61.5%)
4. บราซิล จำนวน 237.43 ล้านโดส (57.5%)
5. ญี่ปุ่น จำนวน 164.86 ล้านโดส (65.3%)
9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. มัลดีฟส์ (98% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (93.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
3. คิวบา (91.7%) (ฉีดวัคซีนของ Moderna, Pfizer/BioNTech, AstraZeneca/Oxford และ J&J)
4. อุรุกวัย (89.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
5. บาห์เรน (87.3%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
6. กาตาร์ (84.4%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
7. อิสราเอล (84%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
8. ชิลี (84%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac
9. จีน (79%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac และ CanSino)
10. สิงคโปร์ (78%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
ที่มา : สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
เผยแพร่โดย : นางสาวสุวดี เหมือนอ้น
กลุ่มสื่อสารองค์กร กองกลาง
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
โทรศัพท์ 0 2333 3700 ต่อ 3880 โทรสาร 0 2333 3834
Facebook : @MHESIThailand
Twitter : @MHESIThailand
Call Center โทร.1313
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.