"อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 4 ตุลาคม ฉีดวัคซีนแล้ว 55,150,481 โดส และทั่วโลกแล้ว 6,348 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 390.54 ล้านโดส โดยจังหวัดของไทยที่ฉีดมากที่สุด คือ กรุงเทพฯ โดยฉีดวัคซีนเข็มแรกกว่า 100.5%”
➡️(4 ตุลาคม 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 6,348 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 31 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 396 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 185 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 390.54 ล้านโดส โดยกัมพูชาฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (78% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 147.23 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 4 ตุลาคม 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 55,150,481 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 60.19%
? ในการฉีดวัคซีน จำนวน 6,348 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 4 ตุลาคม 2564
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 55,150,481 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 32,987,918 โดส (49.8% ของประชากร)
-เข็มสอง 20,696,791 โดส (31.3% ของประชากร)
-เข็มสาม 1,465,772 โดส (2.2% ของประชากร)
2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.- 4 ต.ต. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 55,150,481 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 281,070 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 795,407 โดส/วัน
3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
- เข็มที่ 1 16,633,779 โดส
- เข็มที่ 2 3,510,516 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน AstraZeneca
- เข็มที่ 1 10,398,161 โดส
- เข็มที่ 2 13,382,491 โดส
- เข็มที่ 3 981,255 โดส
วัคซีน Sinopharm
- เข็มที่ 1 5,531,508 โดส
- เข็มที่ 2 3,291,488 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน Pfizer
- เข็มที่ 1 424,470 โดส
- เข็มที่ 2 512,296 โดส
- เข็มที่ 3 484,517 โดส
4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
- บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 123.7% เข็มที่2 118.5% เข็มที่3 89.8%
- เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่1 62.2% เข็มที่2 52.9% เข็มที่3 7.2%
- อสม เข็มที่1 72.1% เข็มที่2 59.8% เข็มที่3 6.4%
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่1 61% เข็มที่1 38.4% เข็มที่3 1.2%
- ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 39.2% เข็มที่2 22.8% เข็มที่3 1%
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 58.8% เข็มที่2 38.7% เข็มที่3 0.3%
- หญิงตั้งครรภ์ เข็มที่1 13.7% เข็มที่2 8.5% เข็มที่3 0.1%
รวม เข็มที่1 45.8% เข็มที่2 28.7% เข็มที่3 2%
5. จังหวัดที่ฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 แบ่งเป็น 2 ชุดข้อมูล
กรุงเทพฯ และปริมณฑล เข็มที่1 80.1% เข็มที่2 46.6% เข็มที่3 3.5% ประกอบด้วย
- กรุงเทพฯ เข็มที่1 100.5% เข็มที่2 53.3% เข็มที่3 4.5%
- ปทุมธานี เข็มที่1 63.8% เข็มที่2 43.7% เข็มที่3 1.5%
- สมุทรปราการ เข็มที่1 66.8% เข็มที่2 40.9% เข็มที่3 1.8%
- สมุทรสาคร เข็มที่1 62.9% เข็มที่2 41.8% เข็มที่3 3.8%
- นนทบุรี เข็มที่1 51.2% เข็มที่2 39.8% เข็มที่3 3.7%
- นครปฐม เข็มที่1 41.4% เข็มที่2 28.3% เข็มที่3 1.9%
จังหวัดอื่น ๆ 71 จังหวัด เข็มที่1 36.9% เข็มที่2 24.1% เข็มที่3 1.6%
- ฉะเชิงเทรา เข็มที่1 66.8% เข็มที่2 36.8% เข็มที่3 1.4%
- ชลบุรี เข็มที่1 67.2% เข็มที่2 42.9% เข็มที่3 3.6%
- พระนครศรีอยุธยา เข็มที่1 53.5% เข็มที่2 38.4% เข็มที่3 1.2%
- เพชรบุรี เข็มที่1 49.2% เข็มที่2 35.7% เข็มที่3 2.9%
- ยะลา เข็มที่1 46.6% เข็มที่2 28.2% เข็มที่3 1.1%
- สงขลา เข็มที่1 42.7% เข็มที่2 28.5% เข็มที่3 1.5%
6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 390,542,185 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 147,230,613 (34.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. ไทย จำนวน 55,150,481 โดส (49.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
3. ฟิลิปปินส์ จำนวน 46,380,460 โดส (22.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
4. เวียดนาม จำนวน 44,637,911 โดส (35%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
5. มาเลเซีย จำนวน 44,352,079 (72.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
6. กัมพูชา จำนวน 25,464,333 โดส (79.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
7. พม่า จำนวน 12,263,702 โดส (15.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
8. สิงคโปร์ จำนวน 9,436,348 โดส (78%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
9. ลาว จำนวน 5.124,424 โดส (40.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 501,834 โดส (68.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร/2 เหมือนกันทุกประเทศ
7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 68.75%
2. ยุโรป 11.17%
3. อเมริกาเหนือ 9.61%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.12%
5. แอฟริกา 2.79%
6. โอเชียเนีย 0.56%
8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 2,212.96 ล้านโดส (79% ของจำนวนการฉีดทั่วโลก)
2. อินเดีย จำนวน 907.89 ล้านโดส (33.2%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 395.93 ล้านโดส (61.8%)
4. บราซิล จำนวน 241.24 ล้านโดส (58.4%)
5. ญี่ปุ่น จำนวน 164.86 ล้านโดส (65.3%)
9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. มัลดีฟส์ (98.4% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (93.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
3. คิวบา (93.9%) (ฉีดวัคซีนของ Moderna, Pfizer/BioNTech, AstraZeneca/Oxford และ J&J)
4. อุรุกวัย (89.2%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
5. บาห์เรน (87.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
6. ชิลี (85.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac
7. อิสราเอล (84.7%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
8. กาตาร์ (84.5%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
9. จีน (79%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac และ CanSino)
10. สิงคโปร์ (78%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
ที่มา : สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
เผยแพร่โดย : นางสาวสุวดี เหมือนอ้น
กลุ่มสื่อสารองค์กร กองกลาง
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
โทรศัพท์ 0 2333 3700 ต่อ 3880 โทรสาร 0 2333 3834
Facebook : @MHESIThailand
Twitter : @MHESIThailand
Call Center โทร.1313
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.