"อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 7 ตุลาคม ฉีดวัคซีนแล้ว 57,387,052 โดส และทั่วโลกแล้ว 6,415 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 403,76 ล้านโดส โดยจังหวัดของไทยที่ฉีดมากที่สุด คือ กรุงเทพฯ โดยฉีดวัคซีนเข็มแรกกว่า 101.2%”
➡️(7 ตุลาคม 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 6,415 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 28.7 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 398 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 186 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 403.76 ล้านโดส โดยกัมพูชาฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (78% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 151,45 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 7 ตุลาคม 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 57,387,052 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 60.52%
? ในการฉีดวัคซีน จำนวน 6,415 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 7 ตุลาคม 2564
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 57,387,052 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 33,774,684 โดส (51% ของประชากร)
-เข็มสอง 22,005,722 โดส (33.2% ของประชากร)
-เข็มสาม 1,606,646 โดส (2.4% ของประชากร)
2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.- 7 ต.ต. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 57,387,052 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 730,807 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 841,565 โดส/วัน
3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
- เข็มที่ 1 17,022,736 โดส
- เข็มที่ 2 3,512,537 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน AstraZeneca
- เข็มที่ 1 10,427,076 โดส
- เข็มที่ 2 14,420,736 โดส
- เข็มที่ 3 1,118,941 โดส
วัคซีน Sinopharm
- เข็มที่ 1 5,746,557 โดส
- เข็มที่ 2 3,542,071 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน Pfizer
- เข็มที่ 1 578,315 โดส
- เข็มที่ 2 530,378 โดส
- เข็มที่ 3 487,676 โดส
4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
- บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 123.5% เข็มที่2 118.9% เข็มที่3 90.4%
- เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่1 62.3% เข็มที่2 54.1% เข็มที่3 8%
- อสม เข็มที่1 72.5% เข็มที่2 62.1% เข็มที่3 6.9%
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่1 62% เข็มที่1 41.4% เข็มที่3 1.4%
- ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 44.3% เข็มที่2 26.6% เข็มที่3 1.3%
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 59.3% เข็มที่2 41.7% เข็มที่3 0.3%
- หญิงตั้งครรภ์ เข็มที่1 14% เข็มที่2 9.1% เข็มที่3 0.1%
- นักเรียน/นักศึกษา เข็มที่ 1 1.7% เข็มที่ 2 0%
รวม เข็มที่1 46.9% เข็มที่2 30.5% เข็มที่3 2.2%
5. จังหวัดที่ฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 แบ่งเป็น 2 ชุดข้อมูล
กรุงเทพฯ และปริมณฑล เข็มที่1 80.9% เข็มที่2 48.9% เข็มที่3 4% ประกอบด้วย
- กรุงเทพฯ เข็มที่1 101.2% เข็มที่2 55.9% เข็มที่3 5.1%
- ปทุมธานี เข็มที่1 65.1% เข็มที่2 45.9% เข็มที่3 1.6%
- สมุทรปราการ เข็มที่1 67.5% เข็มที่2 43.4% เข็มที่3 1.9%
- สมุทรสาคร เข็มที่1 64.4% เข็มที่2 43.3% เข็มที่3 4.8%
- นนทบุรี เข็มที่1 51.6% เข็มที่2 41.9% เข็มที่3 4.5%
- นครปฐม เข็มที่1 42.5% เข็มที่2 30.1% เข็มที่3 1.9%
จังหวัดอื่น ๆ 71 จังหวัด เข็มที่1 38.1% เข็มที่2 25.8% เข็มที่3 1.8%
- ฉะเชิงเทรา เข็มที่1 69.2% เข็มที่2 38.2% เข็มที่3 1.5%
- ชลบุรี เข็มที่1 68.8% เข็มที่2 45.4% เข็มที่3 4.1%
- พระนครศรีอยุธยา เข็มที่1 54% เข็มที่2 40.2% เข็มที่3 1.3%
- เพชรบุรี เข็มที่1 51.5% เข็มที่2 37.9% เข็มที่3 3%
- ยะลา เข็มที่1 47.8% เข็มที่2 29.7% เข็มที่3 1.1%
- สงขลา เข็มที่1 43.8% เข็มที่2 29.7% เข็มที่3 1.5%
6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 403,768,093 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 151,451,699 (35%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. ไทย จำนวน 57,387,052 โดส (51%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
3. ฟิลิปปินส์ จำนวน 48,390,819 โดส (23.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
4. เวียดนาม จำนวน 48,155,037 โดส (36.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
5. มาเลเซีย จำนวน 45,007,832 (74%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
6. กัมพูชา จำนวน 25,500,378 โดส (79.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
7. พม่า จำนวน 12,636,220 โดส (15.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
8. สิงคโปร์ จำนวน 9,513,470 โดส (78%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
9. ลาว จำนวน 5.199,393 โดส (41.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 526,193 โดส (72.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร/2 เหมือนกันทุกประเทศ
7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 68.84%
2. ยุโรป 11.11%
3. อเมริกาเหนือ 9.58%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.11%
5. แอฟริกา 2.79%
6. โอเชียเนีย 0.57%
8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 2,214.56 ล้านโดส (79.1% ของจำนวนการฉีดทั่วโลก)
2. อินเดีย จำนวน 926.17 ล้านโดส (33.9%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 397.72 ล้านโดส (62.1%)
4. บราซิล จำนวน 243.59 ล้านโดส (59%)
5. ญี่ปุ่น จำนวน 170.28 ล้านโดส (67.5%)
9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. มัลดีฟส์ (98.6% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
2. คิวบา (95.1%) (ฉีดวัคซีนของ Moderna, Pfizer/BioNTech, AstraZeneca/Oxford และ J&J)
3. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (94.5%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
4. อุรุกวัย (90.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
5. บาห์เรน (88.4%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
6. อิสราเอล (85.6%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
7. ชิลี (85.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac
8. กาตาร์ (84.9%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
9. จีน (79.1%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac และ CanSino)
10. สิงคโปร์ (78%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
ที่มา : สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
เผยแพร่โดย : นางสาวสุวดี เหมือนอ้น
กลุ่มสื่อสารองค์กร กองกลาง
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
โทรศัพท์ 0 2333 3700 ต่อ 3880 โทรสาร 0 2333 3834
Facebook : @MHESIThailand
Twitter : @MHESIThailand
Call Center โทร.1313
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.