"อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 8 ตุลาคม ฉีดวัคซีนแล้ว 58,298,700 โดส และทั่วโลกแล้ว 6,443 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 409,37 ล้านโดส โดยจังหวัดของไทยที่ฉีดมากที่สุด คือ กรุงเทพฯ โดยฉีดวัคซีนเข็มแรกกว่า 101.5%”
➡️(8 ตุลาคม 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 6,443 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 28.4 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 400 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 187 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 409.37 ล้านโดส โดยกัมพูชาฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (78% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 154,25 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 8 ตุลาคม 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 58,298,700 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 60.62%
? ในการฉีดวัคซีน จำนวน 6,443 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 8 ตุลาคม 2564
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 58,298,700 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 34,188,488 โดส (51.7% ของประชากร)
-เข็มสอง 22,460,213 โดส (33.9% ของประชากร)
-เข็มสาม 1,649,999 โดส (2.4% ของประชากร)
2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.- 8 ต.ต. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 58,298,700 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 911,677 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 644,843 โดส/วัน
3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
- เข็มที่ 1 17,208,888 โดส
- เข็มที่ 2 3,513,138 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน AstraZeneca
- เข็มที่ 1 10,440,261 โดส
- เข็มที่ 2 14,779,490 โดส
- เข็มที่ 3 1,161,599 โดส
วัคซีน Sinopharm
- เข็มที่ 1 5,815,737 โดส
- เข็มที่ 2 3,634,804 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน Pfizer
- เข็มที่ 1 723,602 โดส
- เข็มที่ 2 532,781 โดส
- เข็มที่ 3 488,400 โดส
4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
- บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 123.6% เข็มที่2 119% เข็มที่3 90.5%
- เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่1 62.4% เข็มที่2 54.6% เข็มที่3 8.2%
- อสม เข็มที่1 72.7% เข็มที่2 62.8% เข็มที่3 7%
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่1 62.4% เข็มที่1 42.3% เข็มที่3 1.5%
- ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 44.9% เข็มที่2 27.2% เข็มที่3 1.4%
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 59.5% เข็มที่2 42.6% เข็มที่3 0.3%
- หญิงตั้งครรภ์ เข็มที่1 14% เข็มที่2 9.3% เข็มที่3 0.1%
- นักเรียน/นักศึกษา เข็มที่ 1 3.3% เข็มที่ 2 0%
รวม เข็มที่1 47.5% เข็มที่2 31.2% เข็มที่3 2.3%
5. จังหวัดที่ฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 แบ่งเป็น 2 ชุดข้อมูล
กรุงเทพฯ และปริมณฑล เข็มที่1 81.3% เข็มที่2 49.8% เข็มที่3 4.2% ประกอบด้วย
- กรุงเทพฯ เข็มที่1 101.5% เข็มที่2 56.9% เข็มที่3 5.3%
- ปทุมธานี เข็มที่1 65.8% เข็มที่2 46.5% เข็มที่3 1.6%
- สมุทรปราการ เข็มที่1 67.7% เข็มที่2 44.5% เข็มที่3 2%
- สมุทรสาคร เข็มที่1 65.1% เข็มที่2 43.9% เข็มที่3 5.1%
- นนทบุรี เข็มที่1 52.1% เข็มที่2 42.2% เข็มที่3 4.9%
- นครปฐม เข็มที่1 42.9% เข็มที่2 30.5% เข็มที่3 1.9%
จังหวัดอื่น ๆ 71 จังหวัด เข็มที่1 38.7% เข็มที่2 26.3% เข็มที่3 1.8%
- ฉะเชิงเทรา เข็มที่1 69.7% เข็มที่2 38.6% เข็มที่3 1.5%
- ชลบุรี เข็มที่1 69.6% เข็มที่2 46.8% เข็มที่3 4.1%
- พระนครศรีอยุธยา เข็มที่1 54.4% เข็มที่2 40.6% เข็มที่3 1.3%
- เพชรบุรี เข็มที่1 52.5% เข็มที่2 38.5% เข็มที่3 3.1%
- ยะลา เข็มที่1 48.2% เข็มที่2 30% เข็มที่3 1.1%
- สงขลา เข็มที่1 44.2% เข็มที่2 30.1% เข็มที่3 1.5%
6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 409,376,944 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 154,252,314 โดส (35.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. ไทย จำนวน 58,298,700 โดส (51.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
3. เวียดนาม จำนวน 49,254,925 โดส (37.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
4. ฟิลิปปินส์ จำนวน 48,925,517 โดส (23.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
5. มาเลเซีย จำนวน 45,204,479 (74.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
6. กัมพูชา จำนวน 25,501,222 โดส (79.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
7. พม่า จำนวน 12,636,220 โดส (15.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
8. สิงคโปร์ จำนวน 9,540,497 โดส (78%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
9. ลาว จำนวน 5.236,877 โดส (41.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 526,193 โดส (72.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร/2 เหมือนกันทุกประเทศ
7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 68.78%
2. ยุโรป 11.15%
3. อเมริกาเหนือ 9.60%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.12%
5. แอฟริกา 2.78%
6. โอเชียเนีย 0.57%
8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 2,216.38 ล้านโดส (79.2% ของจำนวนการฉีดทั่วโลก)
2. อินเดีย จำนวน 931.56 ล้านโดส (34.1%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 399.55 ล้านโดส (62.4%)
4. บราซิล จำนวน 245.11 ล้านโดส (59.3%)
5. ญี่ปุ่น จำนวน 171.19 ล้านโดส (67.8%)
9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. มัลดีฟส์ (98.9% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
2. คิวบา (95.7%) (ฉีดวัคซีนของ Moderna, Pfizer/BioNTech, AstraZeneca/Oxford และ J&J)
3. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (94.7%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
4. อุรุกวัย (90.5%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
5. บาห์เรน (88.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
6. อิสราเอล (85.9%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
7. ชิลี (85.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac
8. กาตาร์ (85%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
9. จีน (79.2%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac และ CanSino)
10. สิงคโปร์ (78%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
ที่มา : สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
เผยแพร่โดย : นางสาวสุวดี เหมือนอ้น
กลุ่มสื่อสารองค์กร กองกลาง
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
โทรศัพท์ 0 2333 3700 ต่อ 3880 โทรสาร 0 2333 3834
Facebook : @MHESIThailand
Twitter : @MHESIThailand
Call Center โทร.1313
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.