เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พร้อมด้วย นางสาวสุชาดา แทนทรัพย์ เลขานุการ รมว.อว. และ ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวง อว. เข้าร่วมการประชุมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์และการแจ้งเตือนสาธารณภัยในระดับพื้นที่ จัดโดย กระทรวงมหาดไทย สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) (สสน.) และ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) (สทอภ.) โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม และมี นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงมหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธาธาธารณภัย นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายชวนินทร์ วงศ์สถิตจิรกาล ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง นายสุเมธ ธีรนิติ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี นายนที มนตริวัต ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท ดร.รอยบุญ รัศมีเทศ ผู้อำนวยการ สสน. นางกานดาศรี ลิมปาคม รองผู้อำนวยการ สทอภ. นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย (ฐานะตัวแทนภาคประชาชน) คณะผู้บริหาร กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ เข้าร่วม ณ โรงแรมสุพร แกรนด์ โฮเต็ล จังหวัดอ่างทอง
นายอนุทิน กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญในการยกระดับมาตรฐานการเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์และการแจ้งเตือนภัยในระดับพื้นที่ ตั้งแต่การคาดการณ์สถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะ อว. ได้มีการจัดตั้ง “ศูนย์ปฏิบัติการสถานการณ์น้ำท่วม อว. เพื่อประชาชน” โดยตั้งคณะทำงานเพื่อร่วมขับเคลื่อนการดำเนินงานป้องกันและช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมทั้งระบบ และได้รับการสนับสนุนการปฏิบัติงานในพื้นที่ผ่านการใช้รถ Mobile War Room ที่กระทรวง อว. พัฒนาขึ้นมา ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มีการติดตั้งระบบติดตามสถานการณ์น้ำและสภาพอากาศแบบ Real time รวมถึงเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน Thai Water สำหรับติดตามสถานการณ์น้ำที่ใช้งาน ให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่เข้าถึงได้อย่างสะดวก
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า การประชุมในวันนี้ จะทำให้เราทุกคนได้นำข้อมูลความรู้ต่าง ๆ ไปบูรณาการ เกิดเป็นความร่วมมือในการป้องกันอุทกภัยน้ำท่วมร่วมกัน ทั้งนี้ ต้องขอความร่วมมือจากผู้นำชุมชนทุกภาคส่วนให้ “ใช้ดุลพินิจ” ในการช่วยกันประเมินสถานการณ์น้ำทุกขณะ และทำงานอย่างอินทรีย์ มีพลัง สายตาแหลมคม ช่วยเหลือให้ประชาชนพ้นทุกข์ได้ไวขึ้น
“ขอชื่นชมพี่น้องเกษตรกรทุกท่าน ที่เสียสละพื้นที่บางส่วนในการเป็นพื้นที่รองรับน้ำ พี่น้องเหล่านี้คือผู้ได้รับความเดือดร้อน และต้องได้รับความช่วยเหลือเยียวยา โดยทุกภาคส่วนจะเร่งหาวิธีช่วยเหลือให้ได้มากที่สุด ควบคู่ไปกับการเร่งหาวิธีการในการลดระดับน้ำให้เร็วที่สุดเช่นกัน” รองนายกรัฐมนตรี กล่าว
ด้าน นางสาวศุภมาส กล่าวภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมว่า ประเทศไทยได้รับความสูญเสียจากเหตุการณ์ภัยพิบัติในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ประมาณ 2 ล้านล้านบาท และในขณะนี้หลายพื้นที่ในประเทศไทย โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กำลังเผชิญกับปัญหาน้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และน้ำท่วมฉับพลันอย่างต่อเนื่อง สถานการณ์เหล่านี้ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชน แต่ยังสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สิน เศรษฐกิจ และระบบสาธารณูปโภคของประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหานี้อย่างเป็นระบบ รัฐบาลไทยจึงได้ประกาศให้การบริหารจัดการน้ำเป็น “วาระแห่งชาติ” พร้อมวางแผนทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ครอบคลุมตั้งแต่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การฟื้นฟูระบบนิเวศ ไปจนถึงการนำข้อมูลและเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในการคาดการณ์และเตือนภัยอย่างแม่นยำ
รมว.อว. กล่าวต่อว่า กระทรวง อว. ได้ระดมทุกหน่วยงานในสังกัดที่มีความพร้อม ทั้งด้านองค์ความรู้ เทคโนโลยี และบุคลากร ลงพื้นที่เพื่อรับมือกับภัยธรรมชาติในช่วงฤดูฝนอย่างเป็นระบบ จุดเน้นของการดำเนินงานอยู่ที่การบูรณาการงานวิจัยและเทคโนโลยีเข้ากับพื้นที่จริง เพื่อให้สามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุดและยั่งยืน โดย อว. มีการใช้โดรนเพื่อส่งอาหาร เวชภัณฑ์ และสำรวจพื้นที่ ในช่วงเกิดภัย พร้อมทั้งพัฒนาเครื่องมือวิเคราะห์และแจ้งเตือนภัยดินถล่มด้วย IoT และ AI ซึ่งจะพร้อมใช้งานในเดือนกรกฎาคม รวมถึง สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ยังได้เตรียมการผลิตผลิตภัณฑ์ยับยั้งเชื้อโรค เพื่อใช้ฟื้นฟูบ้านเรือนและสถานที่สาธารณะหลังจากที่ระดับน้ำลดลงแล้วด้วย
“กระทรวง อว. มีเป้าหมายร่วมกันในการลดความสูญเสีย ยกระดับคุณภาพชีวิต และสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนในระยะยาว เพื่อให้ประชาชนปลอดภัย เศรษฐกิจเดินหน้า และประเทศมีศักยภาพในการรับมือภัยพิบัติในอนาคตได้อย่างมั่นคง” รมว.อว. กล่าว
ทำข่าว : นางสาวพรชิตา รุกขชาติ
ถ่ายภาพ : นางสาวอชิรญา รุจิระกุล
สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
กลุ่มสื่อสารองค์กร
โทรศัพท์ 0 2333 3700
E-mail : pr@mhesi.go.th
Facebook : MHESIThailand
Instagram : mhesithailand
Tiktok : @mhesithailand
X (Twitter) : @MHESIThailand
YouTube : @MHESIThailand
Call Center
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.