เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. นายศุภชัย ใจสมุทร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เยี่ยมชมผลการฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานรากให้แก่เกษตรกรและวิสาหกิจชุมชนด้วยวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดยมี รศ.ดร.ประยุกต์ ศรีวิไล อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม นายโฆษิต เหล่าสุวรรณ ประธานหอการค้าจังหวัดมหาสารคาม ดร.อภิรชัย วงษ์ศรีวรพล ผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม คณะผู้บริหารหน่วยงานในสังกัด อว. ให้การต้อนรับ ณ ศูนย์เกษตรเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืช อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม
นายศุภชัย กล่าวว่า ศูนย์เกษตรเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืช ถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการนำวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี วิจัยและนวัตกรรม มาใช้ในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างเป็นรูปธรรม พื้นที่แห่งนี้ไม่ใช่เพียงแค่เป็นแหล่งผลิตต้นพันธุ์คุณภาพสูง แต่ยังทำหน้าที่เป็นศูนย์บ่มเพาะความรู้และนวัตกรรมที่ทำให้เกษตรกรรุ่นใหม่สามารถสร้างธุรกิจของตนเองได้อย่างยั่งยืน สะท้อนถึงเป้าหมายสำคัญของกระทรวง อว. ที่มุ่งเน้นให้มหาวิทยาลัยเป็นศูนย์กลางการพัฒนาพื้นที่ ผ่านการเชื่อมโยงมหาวิทยาลัยมหาสารคามกับภาคการเกษตร โดยอาศัยกลไกของอุทยานวิทยาศาสตร์ การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืช เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่มีศักยภาพสูง ทั้งในแง่การเพิ่มผลผลิต ลดความเสี่ยงด้านโรคพืช และตอบโจทย์ความต้องการของตลาดต้นกล้าเชิงพาณิชย์ด้วยการสนับสนุนของ อว. ผ่านกลไกอุทยานวิทยาศาสตร์ ซึ่งไม่เพียงแต่จะยกระดับผู้ประกอบการรายเดิม แต่ยังเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการหน้าใหม่ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่กลับมาเริ่มต้นทำธุรกิจในบ้านเกิดของตนเองได้อย่างยั่งยืน
นายศุภชัย กล่าวต่อว่า อว. มีแนวทางในการขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่ โดยมุ่งเน้นไปที่การนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของแต่ละชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมท้องถิ่น เช่น การสนับสนุนการจัดตั้งห้องปฏิบัติการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อเพื่อเพิ่มคุณภาพและผลผลิตของพืชเศรษฐกิจ การพัฒนาเทคโนโลยีโรงเรือนอัจฉริยะ เพื่อช่วยควบคุมปัจจัยแวดล้อมและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต หรือการนำระบบตรวจวัดและควบคุมอัตโนมัติมาใช้ในการแปรรูปผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นการเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับเศรษฐกิจฐานรากอย่างเป็นรูปธรรม นอกจากการนำเทคโนโลยีเข้าไปช่วยพัฒนาแล้ว อว. ยังมุ่งผลักดันการสร้างผู้ประกอบการฐานนวัตกรรม (Innovation-Based Entrepreneurs) ผ่านการบ่มเพาะและถ่ายทอดองค์ความรู้จากมหาวิทยาลัย และอุทยานวิทยาศาสตร์ (Science Park) ในระดับภูมิภาค โดยเปิดพื้นที่ให้เยาวชน นักศึกษา รวมถึงประชาชนทั่วไป ได้ทดลองสร้างต้นแบบทางธุรกิจ การเข้าถึงที่ปรึกษา เทคโนโลยี เครื่องมือ หรือแม้แต่ทุนตั้งต้น ซึ่งจะช่วยจุดประกายและขยายผลสู่การพัฒนา Startups หรือผู้ประกอบการรุ่นใหม่ในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน
“อว. ให้ความสำคัญกับการสร้างระบบเศรษฐกิจชุมชนที่เข้มแข็ง โดยวางรากฐานบนความร่วมมือระหว่างชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาควิชาการ ซึ่งจะทำให้การพัฒนาเป็นไปอย่างเหมาะสม สอดคล้องกับความต้องการและศักยภาพของแต่ละพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น การจัดทำแผนธุรกิจชุมชน หรือการสร้างเครือข่ายการตลาด ทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้แนวคิด “เข้าใจพื้นที่ เคารพความรู้ท้องถิ่น และใช้วิทยาศาสตร์อย่างมีเป้าหมาย” เพื่อให้การพัฒนาชุมชนเกิดผลอย่างแท้จริงและยั่งยืน และนี่คือพลังของวิทยาศาสตร์และนวัตกรรม ในการยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องเกษตรกรและเปลี่ยนแปลงชุมชนไปสู่ความยั่งยืนในระยะยาว” ผู้ช่วย รมว.อว. กล่าว
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.