เมื่อวันที่ 22 ก.ย. นายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมกล่าวแสดงความยินดีและให้โอวาทให้แก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากสถาบันโคเซ็นแห่งสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ที่สำเร็จการศึกษาในสาขาวิชาแมคคาทรอนิกส์ รุ่นที่ 1 โดยมี นายโอทากะ มาซาโตะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย นายซูซูกิ คาซูยะ หัวหน้าผู้แทนองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่นสำนักงานประเทศไทย ดร.ทานิกุชิ อิซาโอะ ประธานสถาบันเทคโนโลยีแห่งชาติ ประเทศญี่ปุ่น น.ส.วราภรณ์ รุ่งตระการ ที่ปรึกษาด้านระบบบริหารการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สป.อว.) นางวัฒนาโสภี สุขสอาด ผู้อำนวยการโครงการสถาบันไทยโคเซ็น รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์และแผนการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ศ.(พิเศษ) ดร.กิตติพงษ์ กิตยารักษ์ นายกสภาสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) รศ.ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง รศ.ดร.ณัฐวุฒิ เดไปวา ผู้อำนวยการสถาบันโคเซ็นแห่งสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ผู้บริหาร และนักศึกษาสถาบันโคเซ็นแห่ง สจล. เข้าร่วม ณ หอประชุม คณะวิศวกรรมศาสตร์ สจล.
นายเพิ่มสุข กล่าวว่า น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.อว. มีความประสงค์ที่จะมอบอนุปริญญาบัตรด้วยตนเอง แต่เนื่องจากมีภารกิจในต่างประเทศ จึงทำให้ไม่สามารถเข้าร่วมพิธีได้ ตนจึงได้เป็นผู้แทนกระทรวง อว. เพื่อร่วมแสดงความยินดีในวันนี้ โครงการจัดตั้งสถาบันไทยโคเซ็น เป็นหนึ่งในโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลญี่ปุ่นที่ทั้งสองประเทศให้ความสำคัญ เพื่อร่วมผลักดันการสร้างและพัฒนากำลังคนด้านวิศวกรรมศาสตร์ รองรับการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมด้วยกำลังคนสมรรถนะสูงที่สำคัญในการพัฒนาประเทศ ผ่านการเรียนการสอนด้วยระบบการศึกษารูปแบบโคเซ็นตามมาตรฐานของประเทศญี่ปุ่นที่ออกแบบมาเพื่อสร้างวิศวกรนักปฏิบัติทำให้นักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาจากสถาบันไทยโคเซ็นได้พัฒนาทั้งทักษะทางสังคมและทักษะทางวิชาชีพเฉพาะด้านด้วยเวลาเพียง 5 ปี และเป็นกำลังคนที่มีทักษะตามความต้องการของภาคอุตสาหกรรมในประเทศไทยเพื่อรองรับการลงทุนจากต่างประเทศได้เป็นอย่างดี
.
นายเพิ่มสุข กล่าวต่อว่า ความสำเร็จที่เกิดขึ้นของโครงการสะท้อนให้เห็นจากการมีงานทำทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์ของผู้สำเร็จการศึกษาที่ได้รับเข้าทำงานในสถานประกอบการของภาคอุตสาหกรรมที่อยู่ในเป้าหมายการพัฒนาประเทศ และผู้สำเร็จการศึกษาส่วนหนึ่งได้ศึกษาต่อระดับสูงในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง ณ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่งที่รัฐบาลญี่ปุ่น องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศญี่ปุ่น (Japan International Cooperation Agency: JICA) สถาบันเทคโนโลยีแห่งชาติ ประเทศญี่ปุ่น (National Institute of Technology: NIT) ที่เล็งเห็นถึงศักยภาพของประเทศไทยในการร่วมสร้างและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และร่วมผลักดันการจัดตั้งสถาบันไทยโคเซ็นทั้งสองแห่งขึ้นในประเทศไทยจนบรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของโครงการ
“การสำเร็จการศึกษาเป็นการเริ่มต้นชีวิตของการทำงานและการเรียนรู้ ขอให้ผู้สำเร็จการศึกษานำเอาความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับจากสถาบันไทยโคเซ็น ออกไปรับใช้สังคมให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานและสิ่งที่ตั้งใจไว้ รวมถึง จงไม่หยุดที่จะเรียนรู้ เพราะในโลกปัจจุบันที่องค์ความรู้และเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงเร็วมาก การหาความรู้เพิ่มเติมตลอดเวลาก็จะทำให้ทุกคนทำงานในอนาคตได้อย่างไม่มีปัญหา“ นายเพิ่มสุขกล่าว
ด้าน รศ.ดร.ณัฐวุฒิ กล่าวรายงาย ว่า สถาบันโคเซ็นแห่งสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (KOSEN-KMITL) มีนักศึกษารุ่นแรกที่ประสบความสําเร็จในการก้าวเข้าสู่โลกแห่งการทํางานและการศึกษาต่อ ซึ่งมีนักศึกษารุ่นแรกที่สําเร็จการศึกษาจํานวนทั้งหมด 24 คน ซึ่งได้ทํางานในบริษัทชั้นนําประเทศญี่ปุ่นในประเทศไทย จํานวน 15 คน ศึกษาต่อทั้งในประเทศไทย และประเทศญี่ปุ่น จํานวน 9 คน ทั้งนี้เป็นการสะท้อนถึงคุณภาพการศึกษาและการฝึกอบรมที่มีมาตรฐานสูงของสถาบัน ที่มีส่วนสําคัญทําให้พวกเขาสามารถนําความรู้และทักษะไปใช้ในโลกการทํางานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
.
“ความสําเร็จของผู้สำเร็จการศึกษาในวันนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและการทํางานหนักของทั้งนักศึกษา และอาจารย์ในการพัฒนาหลักสูตร และการศึกษาเพื่อสร้างบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญและพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
ทั้งนี้ นายโมริยามะ มาซาฮิโตะ รมว.การศึกษา วัฒนธรรม กีฬา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประเทศญี่ปุ่น ได้ฝากสารเพื่อแสดงความยินดีแก่นักศึกษาผู้สำเร็จการศึกษา ความว่า ผู้สำเร็จการศึกษาทุกคนเป็นนักศึกษาของสถาบันโคเซ็นแห่ง สจล. รุ่นแรก ซึ่งเป็นนักศึกษาสถาบันโคเซ็นกลุ่มแรกของประเทศไทยที่เรียนรู้และฝึกทักษะอย่างแข็งขันมาเป็นเวลา 5 ปี เพื่อเป็นวิศวกรเชิงปฏิบัติและสร้างสรรค์ ผู้สำเร็จการศึกษาจากสถาบันโคเซ็นแห่ง สจล. ทุกคนจะเริ่มก้าวแรกสู่สังคมใหม่ ความพยายามที่ผ่านมาและก้าวต่อไปในอนาคตของทุกคนจะเป็นแนวทางให้กับรุ่นน้องต่อไป และหวังว่าวิศวกรที่มีความสามารถโดดเด่นจากสถาบันแห่งนี้จะเป็นความหวังในอนาคตของประเทศไทย และเป็นสะพานเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทยให้เจริญรุ่งเรืองสืบต่อไป
ทำข่าว : นางสาวพรชิตา รุกขชาติ
ถ่ายภาพ : นางสาวอชิรญา รุจิระกุล
สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
กลุ่มสื่อสารองค์กร
โทรศัพท์ 0 2333 3700
E-mail : pr@mhesi.go.th
Facebook : MHESIThailand
Instagram : mhesithailand
Tiktok : @mhesithailand
X (Twitter) : @MHESIThailand
YouTube : @MHESIThailand
Call Center 1313
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.