ตัวอย่างบัตรพลังงานที่มีการแผ่รังสีแกมมาออกมา
ตามมีการโฆษณาชวนเชื่อเรื่องบัตรพลังงานโดยอ้างว่า มีสรรพคุณในการรักษาโรคโดยเฉพาะอาการปวดเมื่อย ต่าง ๆ และใช้วิธีการนำบัตรไปแกว่งในแก้วน้ำแล้วนำมาดื่ม หรือนำแก้วน้ำวางทับบนบัตรแล้วดื่ม รวมทั้งมีการนำบัตรสัมผัสกับร่างกายในจุดที่ปวดเมื่อย สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) ขอแจ้งข้อมูลด้านความปลอดภัยทางรังสี ให้ทราบดังนี้
๑. ปกติประชาชนจะได้รับรังสีในธรรมชาติซึ่งมีต้นกำเนิดการแผ่รังสีมาจากอวกาศ พื้นดิน แหล่งแร่ในธรรมชาติ สิ่งก่อสร้าง ฯลฯ มีปริมาณรังสีเฉลี่ย ๐.๒๗ ไมโครซีเวิร์ตต่อชั่วโมง หรือเฉลี่ย ๒๔๐๐ ไมโครซีเวิร์ตต่อปี (ข้อมูลจากคณะกรรมการวิทยาศาสตร์แห่งสหประชาชาติว่าด้วยผลกระทบจากรังสี (The United Nations Scientific Committee on the Effects of Atomic Radiation, UNSCEAR))
๒. การได้รับรังสีอื่นใดนอกเหนือจากธรรมชาติจึงเป็นความเสี่ยง ดังนั้น ตามหลักสากลและกฎหมายไทย กำหนดขีดจำกัดการได้รับรังสีของประชาชน อยู่ที่ ๑๐๐๐ ไมโครซีเวิร์ตต่อปี หรือเฉลี่ยเท่ากับ ๐.๕ ไมโครซีเวิร์ตต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นการได้รับรังสีจากสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น ไม่รวมการได้รับรังสีในธรรมชาติและจากการตรวจรักษาทางการแพทย์
๓. จากข้อมูลที่ ปส. เคยตรวจวิเคราะห์บัตรพลังงาน พบวัสดุนิวเคลียร์ ทอเรียม ๒๓๒ (Th-232) ปริมาณรังสีแต่ละบัตร มีค่าประมาณ ๐.๘๖ ไมโครซีเวิร์ตต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นระดับรังสีสูงกว่าในธรรมชาติประมาณ ๓ เท่า ดังนั้นหากมีการนำบัตรพลังงานมาใช้ตามคำกล่าวอ้าง เช่น การนำมาสัมผัสหรือติดตามร่างกายตลอดเวลา หรือนำไปแกว่งในแก้วน้ำ จะทำให้มีการได้รับปริมาณรังสีสะสมโดยไม่จำเป็น ทำให้เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งในระยะยาวได้ นอกจากนี้ ยังไม่มีข้อมูลทางวิชาการหรืองานวิจัย ที่แสดงว่าบัตรพลังงานมีประโยชน์ในการรักษาทางการแพทย์ได้
ดังนั้น เพื่อลดโอกาสการเกิดผลกระทบจากรังสีต่อร่างกายในระยะยาว ปส. ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการใช้สินค้าที่มีส่วนผสมของวัสดุกัมมันตรังสี หรือวัตถุอันตราย เพราะนอกจากจะไม่เกิดประโยชน์หรือความคุ้มค่าแล้ว อาจได้รับรังสีโดยไม่จำเป็น ซึ่งมีปริมาณสูงกว่าระดับรังสีที่มีอยู่ตามธรรมชาติ
หากประชาชนสงสัย พบเห็นหรือมีบัตรพลังงานหรือบัตรสมาร์ทการ์ดที่มีสารกัมมันตรังสีเป็นส่วนประกอบ สามารถโทรแจ้งสายด่วนเหตุฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสี ที่หมายเลข ๑๒๙๖ (ตลอด ๒๔ ชั่วโมง) เพื่อรับทราบแนวทางการดำเนินการให้เกิดความปลอดภัยต่อไป หรือติดต่อขอรับบริการจัดการกากกัมมันตรังสี ที่สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน)
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.