ขอไปสู้คดีต่อ
เป็นเรื่องของหน่วยงานมีหนังสือหารือการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารไปครับ ว่าคนขอเอกสารเขาบอกว่าจะนำไปฟ้องคดี เรื่องอย่างนี้ เปิดเผยได้หรือไม่ หรือให้ไปว่ากันในชั้นศาล
นายจิตตก ถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ ตามคำสั่งของหน่วยงานตนเอง ต่อมา ป.ป.ช. ส่งรายงานการไต่สวนจำนวน ๑ ชุด ขอให้หน่วยงานพิจารณาโทษทางวินัยกับนายจิตตก เนื่องจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่านายจิตตกมีความผิดทางอาญาและทางวินัย ส่วนทางอาญาได้ส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดแล้ว ต่อมาองค์การบริหารส่วนตำบลระบำแจ้ง ป.ป.ช. ว่า นายจิตตกถูกไล่ออกจากราชการแล้ว ไม่มีสภาพเป็นข้าราชการพนักงานส่วนตำบล จึงไปดำเนินการทางวินัยกับเขาไม่ได้ นายจิตตกจึงมีหนังสือถึงองค์การบริหารส่วนตำบลระบำขอสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงของ ป.ป.ช. เพื่อไปสู้คดี แต่องค์การบริหารส่วนตำบลระบำปฏิเสธโดยให้เหตุผลว่า เป็นข้อมูลข่าวสารตามมาตรา ๑๕ (๒) (๔) และ (๖) นายจิตตกจึงมีหนังสืออุทธรณ์ต่อคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
ในการพิจารณาของคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร หน่วยงานมีหนังสือ ส่งเอกสารตามอุทธรณ์ไปประกอบการพิจารณาและชี้แจงเหตุผลในการปฏิเสธตามที่ชี้แจงกับนายจิตตกไปแล้ว
คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารพิจารณาเห็นว่า ขอสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงของ ป.ป.ช. เป็นข้อมูลข่าวสารการชี้มูลความผิดกรณีนาย ก. ผู้ถูกกล่าวหาที่ ๑ นายจิตตก ผู้ถูกกล่าวหาที่ ๒กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไต่สวนข้อเท็จจริงเสร็จสิ้นแล้วและส่งสำนวนให้หน่วยงานต้นสังกัดดำเนินการทางวินัย แต่เมื่อข้อเท็จจริงนายจิตตกถูกไล่ออกไปก่อนแล้วไม่อยู่ในสถานะพนักงานส่วนตำบล องค์การบริหารส่วนตำบลระบำจึงยุติเรื่องดังกล่าว การเปิดเผยไม่ทำให้การบังคับใช้กฎหมายเสื่อมประสิทธิภาพ ตามมาตรา ๑๕ (๒) แต่การเปิดเผยชื่อพยานอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตหรือความปลอดภัยของบุคคลหนึ่งบุคคลใด ตามมาตรา ๑๕ (๔) จึงวินิจฉัยให้องค์การบริหารส่วนตำบลระบำเปิดเผยข้อมูลข่าวสารเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับนายจิตตก ผู้ถูกกล่าวหาที่ ๒ พร้อมรับรองสำเนาถูกต้องให้ เว้นแต่ชื่อพยานบุคคล หรือข้อมูลที่อาจทราบว่าบุคคลใดเป็นพยานให้ถ้อยคำ รวมถึง ชื่อ สกุล อายุ อาชีพ หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่ ชื่อบิดา มารดา ลายมือชื่อ ฯลฯ ซึ่งเป็นข้อมูลข่าวสารในขอบเขตสิทธิส่วนบุคคลและข้อมูลส่วนบุคคลให้ปกปิดไว้
มีข้อสงสัยการปฏิบัติตามกฎหมายนี้ หารือไปได้ครับที่สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ๐ ๒๒๘๓ ๔๖๗๘ www.oic.go.th
(ที่ สค ๑๙๙/๒๕๖๓)
ข้อมูล : สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
เผยแพร่ข่าว : นายธัชนนท์ บุญหล้า
ส่วนสื่อสารองค์กร สำนักบริหารกลาง
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
โทรศัพท์ 0 2333 3700 ต่อ 3728 - 3732 โทรสาร 0 2333 3834
Facebook : @MHESIThailand
Twitter : @MHESIThailand
Call Center โทร.1313
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.