ขอเพื่อสู้ต่อไป
เรื่องนี้ผมเสนอให้อ่านสำหรับผู้ที่ได้รับคำสั่งลงโทษจากหน่วยงานของรัฐ เพื่อท่านอาจนำข้อมูลข่าวสารไปใช้สิทธิในช่องทางอื่นต่อไป
นายนิวได้มีหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัด ขอข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับคำให้การของพยานตามเอกสารหมายเลข ๓ และ ๗ ตามที่จังหวัดระบุเอกสารดังกล่าวไว้ในคำสั่งจังหวัด แต่จังหวัดมีหนังสือแจ้งปฏิเสธการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารโดยให้เหตุผลว่า การขอสำเนาเอกสารของนายนิวไม่ใช่กรณีหนึ่งกรณีใดตามที่กำหนดไว้ในมาตรา ๙ แห่งพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ นายนิวจึงมีหนังสืออุทธรณ์ ต่อคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
ในการพิจารณาของคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร จังหวัดส่งสำเนาข้อมูลข่าวสารไปประกอบการพิจารณา และชี้แจงสรุปว่า นายนิวขอคัดสำเนาข้อมูลข่าวสารเอกสารหมายเลข ๓ และ ๗ของบันทึกข้อความ ที่ บก ๐๐๑๘.๑/...ซึ่งจังหวัดได้ตรวจสอบเอกสารดังกล่าวแล้วพบว่า เป็นเอกสารบันทึกถ้อยคำพยานในชั้นสอบข้อเท็จจริง กรณีข้าราชการฝ่ายปกครองถูกจับคดีอาญา ซึ่งเป็นถ้อยคำพยานบุคคล ๒ คน เป็นบุคคลอื่นมิใช่บันทึกถ้อยคำของนายนิว จึงต้องห้ามมิให้เปิดเผยโดยปราศจากความยินยอมเป็นหนังสือของเจ้าของข้อมูลที่ให้ไว้ล่วงหน้าหรือในขณะนั้นตามมาตรา ๒๔ จึงปฏิเสธไป
คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารพิจารณาเห็นว่า ข้อมูลข่าวสารเอกสารหมายเลข ๓ และ ๗ ตามที่จังหวัดระบุเอกสารดังกล่าวไว้ในบันทึกข้อความ ที่... ๐๐๑๘.๑/...ตามคำสั่งจังหวัด ที่ ๑๐๐๓/... ลงวันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๐ เป็นเอกสารบันทึกถ้อยคำพยานบุคคลจำนวน ๒ คน ซึ่งกรมการปกครองได้สอบข้อเท็จจริงและสอบสวนวินัยเสร็จสิ้นแล้ว โดยมีคำสั่งลงโทษไล่นายนิวออกจากราชการ การเปิดเผยถ้อยคำพยานตามคำขอ จึงไม่ทำให้การบังคับใช้กฎหมายเสื่อมประสิทธิภาพหรือไม่อาจสำเร็จตามวัตถุประสงค์ได้ ตามมาตรา ๑๕ (๒) ทั้งนี้ หน่วยงานอาจใช้ดุลพินิจปกปิดข้อมูลข่าวสารในขอบเขตสิทธิส่วนบุคคล เช่น ชื่อ นามสกุล เลขที่บัตรประชาชน ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ เป็นต้น ซึ่งการเปิดเผยอาจรุกล้ำสิทธิของบุคคลอื่นโดยไม่สมควร ตามมาตรา ๑๕ (๕) จึงวินิจฉัยให้จังหวัดเปิดเผยข้อมูลข่าวสารตามคำขอ พร้อมรับรองสำเนาถูกต้องให้นายนิว ยกเว้นข้อมูลข่าวสารในขอบเขตสิทธิส่วนบุคคล ให้ปกปิดไว้
แม้การดำเนินการในส่วนของหน่วยงานต้นสังกัดจะเสร็จสิ้นแล้ว แต่ผู้ได้รับคำสั่งก็ยังมีสิทธิได้รับข้อมูลข่าวสารเพื่อไปในขั้นตอนต่อไปตามระเบียบราชการครับ มีข้อสงสัยการปฏิบัติตามกฎหมายนี้ หารือไปได้ครับที่สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ๐ ๒๒๘๓ ๔๖๗๘ www.oic.go.th
( สค. ๓๗๖/๒๕๖๒)
ข้อมูล : สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
รูปภาพ : http://icare-club.com/?good2share=%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B9%86%E0%B8%99%E0%B8%B0-%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B9
เผยแพร่ข่าว : นายธัชนนท์ บุญหล้า
ส่วนสื่อสารองค์กร สำนักบริหารกลาง
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
โทรศัพท์ 0 2333 3700 ต่อ 3728 - 3732 โทรสาร 0 2333 3834
Facebook : @MHESIThailand
Twitter : @MHESIThailand
Call Center โทร.1313
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.