ขอข้อมูลเพราะตกใจ
เรื่องนี้ผู้ขอข้อมูลข่าวสารเห็นว่ามีชื่อตัวเองถูกร้องเรียนแบบเต็ม ๆ ทำอย่างไรจะชี้แจงได้ ไม่มีเอกสารในมือเลย เลยขอข้อมูลที่ถูกร้องเรียน ได้หรือไม่ ไปดูกัน
นางสาวขวัญหายได้เป็นผู้ยืมเงินทดรองราชการในโครงการประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการของหน่วยงาน ก. แต่โครงการสัมมนานี้มีผู้ร้องเรียนต่อหน่วยงานที่มีหน้าที่ตรวจสอบแห่งหนึ่ง ต่อมาหน่วยงานดังกล่าว (หน่วยงาน ข.) มีหนังสือถึงหน่วยงาน ก. ขอทราบข้อเท็จจริงพร้อมทั้งเอกสารพยานหลักฐาน ที่เกี่ยวข้อง นางสาวขวัญหายในฐานะผู้ยืมเงิน จึงมีหนังสือถึงสำนักงาน ข. ขอสำเนาหนังสือร้องเรียนพร้อมเอกสารประกอบการร้องเรียนทั้งหมด แต่สำนักงาน ข. มีหนังสือแจ้งปฏิเสธการเปิดเผยว่า เป็นข้อมูลข่าวสารตามมาตรา ๑๕ (๒) (๔) และ (๖) จึงเปิดเผยให้ไม่ได้ นางสาวขวัญหายจึงมีหนังสืออุทธรณ์ต่อคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
ในการพิจารณาของคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร สำนักงาน ข. ส่งสำเนาข้อมูลข่าวสารไปประกอบการพิจารณา ประกอบด้วยหนังสือร้องเรียน แผ่นซีดีภาพโครงการสัมมนาและเอกสารการเบิกจ่าย และชี้แจงสรุปว่า คดีนี้อยู่ระหว่างการแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐาน หากมีหลักฐานเพียงพอว่านางสาวขวัญหายกระทำผิดจริง ก็จะแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบเพื่อชี้แจงและหาหลักฐานมาโต้แย้ง ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างดำเนินการ ยังไม่มีผลการพิจารณาหรือคำสั่งถึงที่สุดที่จะมีผลต่อนางสาวขวัญหาย จึงยังเปิดเผยให้ไม่ได้ ในส่วนของนางสาวขวัญหายชี้แจงว่าเธอไม่ได้เป็นผู้ดำเนินการในเรื่องเอกสาร แต่มีชื่อเป็นผู้ยืมเงิน เมื่อสัมมนากลับมาแล้วได้ตรวจดูเอกสารก็พบว่าเป็นไปตามระเบียบการเบิกจ่ายเงิน ต่อมาสำนักงาน ข. มีหนังสือถึงหน่วยงานขอข้อเท็จจริงและเอกสาร ในฐานะเป็นผู้ยืมเงินเกรงจะมีความผิดและไม่มีโอกาสชี้แจง จึงได้ขอข้อมูลการร้องเรียน และที่สำคัญสำนักงาน ข. เรียกเจ้าหน้าที่ไปชี้แจงทีละคน ผู้ไปชี้แจงกลับไปแจ้งกับนางสาวขวัญหายว่า การร้องเรียนได้ระบุชื่อนางสาวขวัญหายเป็นผู้ทุจริต จึงร้อนใจอยากชี้แจง เพราะทราบดีว่าใครเป็นคนร้องเรียนและนางสาวขวัญหายมีเรื่องโกรธเคืองกับผู้ร้องเรียนมา ๕ ปีแล้ว
คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารพิจารณาเห็นว่า หนังสือร้องเรียนโครงการสัมมนาดังกล่าวและเอกสารประกอบการร้องเรียนทั้งหมด เป็นข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการร้องเรียนที่ผู้ร้องเรียนไม่ประสงค์ให้นำไปเปิดเผยต่อผู้อื่น ตามมาตรา ๑๕ (๖) แม้นางสาวขวัญหายอ้างว่าได้รับความเสียหายโดยตรงและผู้ร้องเรียนมีพฤติกรรมกลั่นแกล้ง แต่ตามคำชี้แจงของสำนักงาน ข. ว่าการดำเนินการเรื่องร้องเรียนดังกล่าวอยู่ระหว่างดำเนินการยังไม่มีผลถึงที่สุดที่จะมีผลโดยตรงต่อนางสาวขวัญหายจึงยังสรุปไม่ได้ว่าเป็นการร้องเรียนเท็จและยังไม่กระทบสิทธิของนางสาวขวัญหายโดยตรง การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารที่อยู่ระหว่างแสวงหาข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานอาจทำให้การบังคับใช้กฎหมายเสื่อมประสิทธิภาพหรือไม่อาจสำเร็จตามวัตถุประสงค์ได้ ตามมาตรา ๑๕ (๒) การที่สำนักงาน ข. ปฏิเสธการเปิดเผยจึงถูกต้องแล้ว จึงวินิจฉัยให้ยกอุทธรณ์
ตอนนี้รู้ว่าถูกร้องเรียนเรื่องโครงการนี้ ไปทบทวนประเด็นรวบรวมเอกสารทำคำชี้แจงข้อเท็จจริงไว้ล่วงหน้า เมื่อได้รับแจ้งประเด็นข้อกล่าวหาก็ค่อยชี้แจงและขอข้อมูลข่าวสารใหม่ครับ มีข้อสงสัยการปฏิบัติหรือจะใช้สิทธิตามกฎหมายนี้หารือไปได้ครับที่ ๐ ๒๒๘๓ ๔๖๗๘ www.oic.go.th
ข้อมูล : สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
รูปภาพ : https://www.pinterest.com/pin/637470522231155554/?lp=true
เผยแพร่ข่าว : นายธัชนนท์ บุญหล้า
ส่วนสื่อสารองค์กร สำนักบริหารกลาง
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
โทรศัพท์ 0 2333 3700 ต่อ 3728 - 3732 โทรสาร 0 2333 3834
Facebook : @MHESIThailand
Twitter : @MHESIThailand
Call Center โทร.1313
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.