รมว.อว. ชี้ไทยมีฐานทางวัฒนธรรมสูงเป็นอันดับ 6-7 ของโลก

รมว.อว. ชี้ไทยมีฐานทางวัฒนธรรมสูงเป็นอันดับ 6-7 ของโลกเตรียมนำมาแก้ปัญหาเศรษฐกิจฐานรากแก้จน
เผยขณะนี้ มีเป้าคนจนที่ชัดเจน สามารถระบุได้ว่าครัวเรือน ที่ยากจนเป็นใคร อยู่ที่ไหน มีจำนวนเท่าไหร่
เป็นครั้งแรกเพื่อขยับคนยากจนขึ้นเป็นคนชั้นกลาง ไทยพ้นจากประเทศด้อยพัฒนา

เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2564 : ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม พร้อมด้วย รศ.ดร.พาสิทธิ์ หล่อธีรพงศ์ รองปลัด อว. นำคณะผู้บริหาร อว. ตรวจเยี่ยมการดำเนินงาน “อว. แก้จน : วิจัยและนวัตกรรมเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก” ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏลําปาง จังหวัดลำปาง โดยมี นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดลําปาง ให้การต้อนรับ

         ทั้งนี้ ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก และคณะได้เข้าร่วมการประชุม “การจัดการมรดกทางภูมิวัฒนธรรมชุมชน เมืองลำปาง” จากนั้นแถลงผลงาน “อว. แก้จน : วิจัยและนวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนและการ จัดการทุนทางวัฒนธรรมเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก” รมว.อว. ได้กล่าวในที่ประชุมว่า การแก้ไขปัญหาความยากจนเป็นเรื่องสำคัญ ประเทศไทยมีความเลื่อมล้ำมากขึ้น ยังมีคนจนอยู่ ซึ่งเป็นปัญหาที่รัฐบาลมีความตระหนักและถือเป็นงานที่สำคัญ โดย อว.ได้สำรวจตัวเลขคนจนที่แท้จริง และสามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่า ครัวเรือนที่ยากจนเป็นใคร อยู่ที่ไหน มีจำนวนเท่าไหร่ ซึ่งถือเป็นครั้งแรก ที่เรามีเป้าคนจนที่ชัดเจนมาก นอกจากนี้ยังมีความร่วมมือกับหลายกระทรวง ในการส่งต่อข้อมูลของ คนที่มีปัญหาความยากจนทั้งหมด 100% ไปสู่หน่วยงานอื่นๆในการช่วยเพิ่มเติมทักษะ หาอาชีพที่ดีขึ้น มีรายได้สูงขึ้น หรือการนำเทคนิค เทคโนโลยีต่างๆมาอบรม ฝึกฝนเพื่อทำให้มีรายได้สูงขึ้น เรามีระบบที่จะส่ง ต่อคนยากจนไปยังกระทรวงต่างๆ เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหานี้ เพราะฉะนั้นจากคำพูดที่ว่า เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เป็นคำพูดที่ไม่เกินจริง เราจะพาคนจนไปให้พ้นจากความยากจนทำให้เขากลาย เป็นคนชั้นกลางขึ้นมาให้ได้

         รมว.อว.กล่าวต่อว่า การพัฒนาประเทศโดยให้ความสำคัญกับพื้นที่ถือเป็นกุญแจสำคัญ เราใช้ฐาน ทางวัฒนธรรมมาแก้ปัญหาเศรษฐกิจฐานราก ที่ไม่ใช่เป็นเพียงเศรษฐกิจเกษตรเท่านั้น แต่ต้องเป็นเศรษฐกิจ เกษตรแบบที่มีเทคโนโลยีที่สูงขึ้น และต้องมีเศรษฐกิจที่ใช้ฐานวัฒนธรรมด้วย เพราะไทยเป็นประเทศที่มีฐานทาง วัฒนธรรมสูงมาก เป็นอันดับ 6-7 ของโลก ต้องนำสิ่งที่มีอยู่คือฐานทางวัฒนธรรม ฐานทางอารยธรรม ซึ่งอยู่ในต่าง จังหวัด ชุมชน อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน หากสามารถทำเกษตรให้มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น ร่วมกับทำให้เกษตรกรมีความ สนใจ มีทักษะ สามารถฟื้นฟูฐานทางวัฒนธรรม ศิลปะ สุนทรียศาสตร์ ขึ้นมาได้ด้วยนั้น ตนคิดว่าจะสามารถแก้ไข ปัญหาความยากจนได้อย่างแน่นอน

         “อว.จะเข้ามาเพิ่มเติมเรื่องความคิด วิธีทำงาน งานวิจัยและนวัตกรรมเข้าไป นำพาคนยากจนขึ้นมา เป็นคนชั้นกลาง และหากคนส่วนใหญ่ของประเทศเป็นคนชั้นกลางได้ ประเทศไทยก็จะพ้นจากการเป็นประเทศ ด้อยพัฒนา พ้นจากการเป็นประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งเราตั้งเป้าไว้ว่าอีก 16 ปีข้างหน้า งานที่เราทำอยู่ตอนนี้จะประ สบความสำเร็จ ทำให้ประเทศไทยอันเป็นที่รักยิ่งของพวกเราทุกคนเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว” ดร.เอนก กล่าวในตอนท้าย

เขียนข่าว : วีนัส แก้วประเสริฐ
ถ่ายภาพ : อินทิรา บัวลอย

เผยแพร่ข่าว : ปราณี ชื่นอารมณ์
กลุ่มสื่อสารองค์กร กองกลาง
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
โทรศัพท์ 0 2610 5241-47 0 2333 3700 ต่อ 3728 - 3732 โทรสาร 0 2333 3834
e-mail : pr@mhesi.go.th
Facebook : @MHESIThailand
Twiiter : @MHESIThailan