เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2565 ที่โรงแรมเซ็นทรา บายเซ็นทารา ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) จัดเวทีสมัชชาสุขภาพรายประเด็น เพื่อระดมความคิดเห็น การขจัดความยากจนตามแนวคิดเศรษฐกิจ BCG : การยกระดับเศรษฐกิจครัวเรือน หลังจากที่มีการประชุมโฟกัสกรุ๊ปจากภาครัฐ ผู้ประกอบการ และภาคีเครือข่าย และทำประชาพิจารณ์เสร็จเรียบร้อยเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
ดร.กาญจนา วานิชกร รองผู้อำนวยการ สอวช. กล่าวว่า เมื่อ 2-3 ปี ที่แล้ว ถ้าพูดถึงเศรษฐกิจบีซีจี คนจะยังไม่ค่อยเข้าใจ แต่หลังจากที่เป็นวาระแห่งชาติ และรัฐบาลสั่งการนโยบายไปยังหน่วยงานต่าง ๆ จนนำไปสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมด้วย และได้นำเข้าหารือเป็นยุทธศาสตร์หลักในการประชุมเอเปค 2022 ที่ผ่านมาด้วย แม้ในรายประเด็นจะแตกต่าง แต่ในบริบทของประเทศไทยจะเห็นว่า เราจะพ้นกับดักรายได้ปานกลางไม่ได้ ถ้ายังไม่สามารถแก้ปัญหาความยากจนได้
“แม้การแปลงนโยบาย บีซีจี มาสู่การปฏิบัติ อาจจะยังมีการตีความที่แตกต่างกัน แต่หัวใจสำคัญคือการที่เราจะใช้ความเข้มแข็งของพื้นที่เข้ามาเติมเต็มด้วยองค์ความรู้ นวัตกรรม เทคโนโลยี ความคิดสร้างสรรค์ เพื่อสร้างโอกาสในการพัฒนาทางเศรษฐกิจ สร้างรายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเชื่อมโยงกับการต่อสู้ความยากจน ซึ่งเป็นโจทย์สำคัญของประเทศที่จะทำให้เราหลุดพ้นออกจากกับดักรายได้ปานกลาง จึงเชื่อว่าเวทีสมัชชาฯ จะช่วยสร้างกระบวนการ แนวคิด เครื่องมือใหม่ๆ ที่เพิ่มโอกาสในการขจัดความยากจน ยกระดับเศรษฐกิจฐานราก และเชื่อมไปถึงการพัฒนาเชิงพื้นที่ได้ต่อไป” ดร.กาญจนา กล่าว
รองผู้อำนวยการ สอวช. กล่าวว่า ในส่วนของ สอวช. ได้มีโอกาสพัฒนาแนวคิดเศรษฐกิจ บีซีจี เมื่อ 3 ปีที่แล้ว และพบว่า หลังสถานการณ์โควิด ต้องการแนวคิดพัฒนารูปแบบใหม่ โดยนำทั้ง 3 แนวคิด คือเศรษฐกิจฐานชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว มาประยุกต์ใช้ เพื่อแปลงนโยบายมาสู่การปฏิบัติ โดยใช้ความเข้มแข็งของพื้นที่เติมเต็มด้วยองค์ความรู้ นวัตกรรม เทคโนโลยี และความสร้างสรรค์ เพื่อสร้างโอกาสใหม่เชื่อมโยงไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ทั้งนี้จากการลงพื้นที่และร่วมประชุมกับสมัชชาจังหวัดสกลนคร ซึ่งมีเครือข่ายที่เข้มแข็ง พลังมวลชนร่วมคิด ร่วมทำ และนำบีซีจี มาผนวกและขยายผลใช้ประโยชน์ในพื้นที่ได้อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ จากการประชุมร่วมกับภาคส่วนต่าง ๆ ทำให้เห็นว่า ประเทศไทยจะพ้นกับดักรายได้ปานกลางไม่ได้ หากยังไม่สามารถแก้ปัญหาความยากจนได้ ดังนั้นเราจึงต้องเร่งสร้างโอกาสและความหวัง เพื่อให้ข้อเสนอต่าง ๆ ที่ได้จากการระดมความคิดเห็นร่วมกัน เป็นโยบายที่มีชีวิต ขับเคลื่อนได้ประชาชนได้ประโยชน์จริง
นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ประธานกรรมการจัดสมัชชาสุขภาพแห่งชาติครั้งที่ 15-16 (พ.ศ.2565-2566) กล่าวว่า การประชุมสมัชชาสุขภาพ มีการรวมกันทั้ง 3 ฝ่าย คือ 1. ภาครัฐ ที่จะประกาศนโยบายสาธารณะ 2. ภาคประชาชน ในฐานะผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและได้รับประโยชน์จากนโยบายที่รัฐบาลประกาศใช้ และ 3. ภาควิชาการ ซึ่งสมัชชาสุขภาพเป็นกระบวนการระดับชาติที่สะท้อนเสียงของประชาชนว่าต้องการนโยบายแบบไหน หรือนโยบายสาธารณะที่ออกมาจะนำไปสู่การแก้ไขปรับปรุงอย่างไร ในส่วนของภาครัฐก็จะได้โอกาสฟังเสียงประชาชน เพื่อทำให้ประชาชนได้ประโยชน์อย่างแท้จริง
ทั้งนี้ ภาคีสมาชิกสมัชชาสุขภาพ ได้ร่วมกันให้ฉันทมติรับรองระเบียบวาระดังกล่าว เป็นนโยบายสาธารณะที่มุ่งเน้นให้ทุกภาคส่วนและทุกระดับ ของสังคม ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมมี ความรู้ รู้เท่าทันและมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาความยากจนที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ สังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม โดยเสนอแนะแนวทางการบูรณาการในเชิงระบบ โครงสร้าง และประเด็นที่มีความแตกต่างกันไปตามบริบทของพื้นที่ ผ่านการประยุกต์ใช้แนวคิดการพัฒนาเศรษฐกิจ บีซีจี ที่เป็นการนำองค์ความรู้ นวัตกรรม และเทคโนโลยีอย่างครบวงจร มาหนุนเสริมทุนทางธรรมชาติ ทุนทางศาสนา ความเชื่อ และวัฒนธรรม เพื่อสร้างโอกาสในการยกระดับเศรษฐกิจครัวเรือนฐานราก มุ่งเน้นในเรื่องความสามารถด้านการบริหารการเงินโดยการเพิ่มรายได้และลดรายจ่ายโดยใช้
1. การพัฒนาระบบบริหารจัดการข้อมูลคนจนแบบแม่นยำและมุ่งเป้า
2. การบูรณาการกลไกการทำงานการขจัดความยากจนในระดับพื้นที่ ตามแนวคิดเศรษฐกิจ บีซีจี
3. การเสริมสร้างศักยภาพพัฒนาทักษะอาชีพ สร้างผู้ประกอบการ บีซีจี แก้จน และชุมชน บีซีจี
4. การปรับโครงสร้างการบริหารและกลไกสนับสนุนเพื่อกระจายโอกาสสู่กลุ่มฐานราก
และมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมและความรับผิดชอบต่อสังคมของทุกภาคส่วน ก่อให้เกิดเครือข่ายพลังของภาคประชาชนที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนวิธีคิดและพฤติกรรมใหม่ ตลอดจนแนวทางการทำงานที่นำไปสู่การสร้างเสริม สุขภาพ สุขภาวะแวดล้อม สร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการเรียนรู้ การศึกษาและทางสังคมมุ่งเน้นการตอบโจทย์การสร้างความเป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้ำของประเทศ เพื่อให้เกิดการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตครัวเรือน ขจัดความยากจนข้ามรุ่น และการขับเคลื่อนสู่เป้าหมายการจัดการในเชิงระบบอย่างยั่งยืน สอดรับกับหลักการของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเป็นหลักสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย
ทั้งนี้ แนวคิดเศรษฐกิจบีซีจี ยกระดับเศรษฐกิจครัวเรือน นั้น เป็นเพียงหนึ่งในเครื่องมือที่ในการขจัดความยากจน ที่ สอวช. ได้นำเสนอเรื่องนี้เข้ามาเป็นกลไกในการขับเคลื่อน ซึ่งผลสรุปในการประชุมในครั้งนี้ จะถูกนำเสนอ ในเวทีสมัชชาสุขภาพแห่งชาติที่จะมีขึ้นใน วันที่ 21-22 ธันวาคม 2565 จากนั้นจะสรุปเป็นฉันทมติร่วมกันส่งต่อไปยังรัฐบาล เพื่อผลักดันเป็นวาระแห่งชาติต่อไป
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.