สกสว. เยี่ยมชมและติดตามผลการดําเนินงานโครงการวิจัยที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนส่งเสริม ววน. ของ มหาวิทยาลัยพะเยา มุ่งยกระดับความเป็นเลิศด้านวิจัยในระดับโลกควบคู่กับการพัฒนาชุมชนด้วยนวัตกรรม
เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) นำโดย รองศาสตราจารย์.ดร.คมกฤต เล็กสกุล ผู้อำนวยการกลุ่มภารกิจการพัฒนา ววน. ด้านกําลังคนและสถาบันความรู้ สกสว. เยี่ยมชมและติดตามผลการดําเนินงานโครงการวิจัยที่ได้รับทุนจากกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กองทุน ววน.) ของ มหาวิทยาลัยพะเยา โอกาสนี้ ศาสตราจารย์ ดร.เสมอ ถาน้อย รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยพะเยา รองศาสตราจารย์ ดร.สุรศักดิ์ เสาแก้ว คณบดีคณะเภสัชศาสตร์ หัวหน้าโครงการหน่วยวิจัยเพื่อความเป็นเลิศด้านการวิจัยผลลัพธ์และบูรณาการทางคลินิก รองศาสตราจารย์ ดร.ประสิทธิ์ ช่อลำเจียก คณะวิทยาศาสตร์ หัวหน้าโครงการหน่วยวิจัยเพื่อความเป็นเลิศด้านคณิตศาสตร์ รองศาสตราจารย์ ดร.ฉัตรมงคล สุวรรณภูมิ คณะเกษตรศาสตร์ หัวหน้าโครงการหน่วยวิจัยเพื่อความเป็นเลิศด้านความหลากหลายทางชีวภาพและการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ ให้การต้อนรับ และ นำเสนอภาพรวมการดำเนินงาน
รองศาสตราจารย์ ดร.คมกฤต เล็กสกุล กล่าวว่า สกสว. มีพันธกิจในการจัดทำแผนและกรอบงบประมาณด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) ของประเทศ รวมถึงบริหารระบบงบประมาณด้าน ววน. ผ่านการจัดสรรงบประมาณจากกองทุนส่งเสริม ววน. ให้กับหน่วยงานในระบบ ววน. ซึ่งแบ่งออกงบประมาณเป็น 2 ส่วน คือ
1. งบประมาณเพื่อสนับสนุนงานเชิงกลยุทธ์ (Strategic Fund: SF) โดยมีหน่วยบริหารจัดการทุนทั้ง 9 แห่ง ทำหน้าที่จัดสรรทุนวิจัย แก่นักวิจัยและหน่วยงานระดับปฏิบัติ เพื่อดำเนินการวิจัยที่ตอบยุทธศาสตร์และแผนด้าน ววน. ของประเทศ ที่ตนรับผิดชอบ และ
2. งบประมาณเพื่อสนับสนุนงานมูลฐาน (Fundamental Fund: FF) ซึ่งเป็นการจัดสรรงบประมาณตรงไปยังหน่วยงานที่มีภารกิจเฉพาะด้าน ววน. และดำเนินการตามพันธกิจของตน รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานด้าน ววน. ระดับชาติ และโครงการริเริ่มสำคัญของประเทศ
มหาวิทยาลัยพะเยาเป็นหน่วยงานหนึ่งที่ได้งบประมาณด้าน ววน. ของกองทุนส่งเสริม ววน. สนับสนุนงานมูลฐาน เพื่อสร้างความเข้มแข็งของงานวิจัยและการบริหารงานวิจัยขอสถาบันอุดมศึกษา ให้สามารถตอบสนองแนวนโยบายของชาติ และสามารถไปขยายผลต่อยอดตอบสนองงานเชิงกลยุทธ์ เช่น โครงการวิจัยเพื่อสนับสนุนการใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ ที่สามารถผลิตสินค้านวัตกรรม เพื่อจัดจำหน่ายได้ 12 ผลิตภัณฑ์ และ โครงการเพื่อความเป็นเลิศ (Unit of Excellence) กระทั่งสามารถผลิตผลงานตีพิมพ์เผยแพร่ผลการวิจัยให้กับมหาวิทยาลัยในปี 2564 จำนวนทั้งสิ้น 370 ผลงาน ซึ่งเป็นสัดส่วนร้อยละ 89 จากผลงานการตีพิมพ์ในระดับนานาชาติ ทำให้มหาวิทยาลัยพะเยาได้เข้ารับการประเมินในการจัดอันดับมหาวิทยาลัยนานาชาติ (Ranking) ใน The Impact Ranking โดยปี 2022 อยู่ในอันดับ 10 ของประเทศ และ อันดับที่ 301-400 จาก 1,406 สถาบันทั่วโลก ขณะที่ SCImago Institution Rankings 2022 จัดอันดับให้มหาวิทยาลัยพะเยาเป็นอันดับที่ 9 ของประเทศไทย และเป็นอันดับที่ 678 ของโลก
นอกจากการสนับสนุนงานมูลฐานแล้ว มหาวิทยาลัยพะเยา เป็นอีกหนึ่งหน่วยงานที่ได้การสนับสนุนการดำเนินงานเชิงกลยุทธ์ และมีผลงานที่โดดเด่น เช่น โครงการ Phayao Learning City ที่สนับสนุนโดย หน่วยบริหารจัดการทุนเพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่ (บพท.) ร่วมขับเคลื่อนจังหวัดพะเยาให้เป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตบนฐานภูมิปัญญาท้องถิ่นร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ส่งผลให้ UNESCO รับรองให้จังหวัดพะเยา เป็นสมาชิกเมืองแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตของโลก
ด้าน ศาสตราจารย์ ดร.เสมอ ถาน้อย กล่าวว่า มหาวิทยาลัยพะเยา เป็นมหาวิทยาลัยสร้างปัญญา โดยมีพันธกิจเพื่อสังคมและชุมชน ที่มีการประเมินตัวชี้วัด 4 ขอบเขตหลัก ได้แก่
1. งานวิจัย
2. นโยบายและแนวทางปฏิบัติภายในมหาวิทยาลัย
3. การเชื่อมโยงกับสังคมไทยและสังคมโลก และ
4. การเรียนการสอนผ่านการดำเนินงาน 17 เป้าหมายหลักของการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals)
เนื่องจากงานวิจัยเป็น 1 ในตัวชี้วัดที่สำคัญ มหาวิทยาลัยจึงได้ผลักดันงานตามเป้าหมายดังกล่าว ภายใต้ กลยุทธ์ Supper KPI ใน ยุทธศาสตร์ที่ 2 การสร้างงานวิจัยและนวัตกรรมสู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ 4 KPI ของการดำเนินงานในปี 2565 คือ
1. จำนวนผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่นำไปใช้ประโยชน์จริงในชุมชน 20 ผลงาน
2. จำนวนผลิตภัณฑ์ อันเกิดจากผลงานวิจัยที่นำไปใช้ขยายผลหรือต่อยอดการใช้ประโยชน์สู่พาณิชย์ จำนวน 3 ผลิตภัณฑ์
3. จำนวนผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารที่อยู่ในฐานข้อมูลที่ได้รับการยอมรับในระดับชาติและนานาชาติ จำนวน 100 ผลงานและ 200 ผลงาน ตามลำดับ และ
4. ผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลก
รวมถึงการดำเนินงานภายใต้ ยุทธศาสตร์ที่ 3 การบริการวิชาการด้วยองค์ความรู้และนวัตกรรม เพื่อความเข้มแข็งของชุมชน ที่ตระหนักถึงการสร้างศูนย์เรียนรู้ใหม่ หรือ แหล่งเรียนรู้ใหม่ ที่เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ที่สำคัญของสังคมและชมชน ของทุกช่วงวัย จำนวน 10 พื้นที่ และ จำนวนชุมชนที่ได้รับการส่งเสริมพัฒนา 1 คณะ 1 ชุมชนนวัตกรรม จำนวน 10 ชุมชม อย่างไรก็ดี KPI หรือตัวชี้วัดดังกล่าว เปรียบได้กับภาพสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญต่อการปรับเปลี่ยนบทบาทของมหาวิทยาลัยในพื้นที่อื่น ๆ ของประเทศไทยที่จะต้องก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกลไกความร่วมมือในระดับพื้นที่ ทำงานร่วมกับหน่วยงานภาคีในท้องถิ่น และนำเอาองค์ความรู้งานวิจัยและนวัตกรรมพร้อมใช้ของมหาวิทยาลัยที่มีอยู่ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาเศรษฐกิจหรือแก้ไขปัญหาของพื้นที่ในบริบทต่าง ๆ ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่อไป
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.