เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ลงพื้นตำบลสวาย อ.เมือง จ.สุรินทร์ ติดตามผลสำเร็จ การยกระดับศักยภาพการท่องเที่ยวโดยชุมชนเชิงนวัตกรรม เกิด “ถนนสายไหม” สร้างระบบการจัดการของชุมชน ส่งเสริมอัตลักษณ์ของท้องถิ่น พัฒนาคุณภาพชีวิต สร้างโอกาสทางเศรษกิจที่ดีขึ้น และยกระดับศักยภาพผลิตภัณฑ์เพื่อการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ภายใต้ “โครงการยกระดับศักยภาพการท่องเที่ยวโดยชุมชนเชิงนวัตกรรมเพื่อสร้างคุณค่าอัตลักษณ์พื้นถิ่นด้วยภูมิปัญญาและนวัตกรรมบนฐานเศรษฐกิจ BCG” ดำเนินการโดย มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ พร้อมด้วยเครือข่ายมหาวิทยาลัยราชภัฏกลุ่มอีสานล่าง
ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า วช. ได้ให้การสนับสนุนทุนวิจัยในแผนงานการส่งเสริมกลไกมหาวิทยาลัยในพื้นที่เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น แก่มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ และเครือข่ายมหาวิทยาลัยราชภัฏกลุ่มอีสานล่าง ในการดำเนินงาน “โครงการยกระดับศักยภาพการท่องเที่ยวโดยชุมชนเชิงนวัตกรรมเพื่อสร้างคุณค่าอัตลักษณ์พื้นถิ่นด้วยภูมิปัญญาและนวัตกรรมบนฐานเศรษฐกิจ BCG” มุ่งเน้นการมีส่วนร่วม การสร้างระบบการจัดการ และมุ่งสู่มาตรฐานของผลิตภัณฑ์ชุมชน โดยใช้ทิศทาง BCG มาเป็นเป้าหมายร่วมในการดำเนินงานโดยใช้วิจัยและนวัตกรรม ขับเคลื่อนมาตรฐานผลิตภัณฑ์ให้เกิดโอกาสที่ดีขึ้นและผลสำเร็จในมิติต่างๆของชุมชน
ผศ.ดร.ฉลอง สุขทอง อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ กล่าวว่า สำหรับโครงการวิจัยนี้ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ได้ร่วมกับเครือข่ายมหาวิทยาลัยราชภัฏทั่วประเทศ ภายใต้การสนับสนุนจาก วช. ได้ดำเนินการวิจัยในพื้นที่ตำบลสวายต่อเนื่องมา 3 ปีแล้ว การดำเนินการวิจัยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานเครือข่ายต่าง ๆ เป็นอย่างดี ซึ่งต้องขอขอบพระคุณสำหรับการทำงานร่วมกัน ผลลัพธ์และความสำเร็จของงานวิจัยที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ไม่เพียงแต่จะเป็นประโยชน์ต่อชุมชนสวายเท่านั้น แต่คาดหวังว่าผลการวิจัยจะถูกนำไปถ่ายทอดและใช้ประโยชน์กับชุมชนอื่นๆ ในจังหวัดสุรินทร์ด้วย
นายวิโรจน์ กองสนั่น นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสวาย กล่าวว่า ในนามตัวแทนของพี่น้องประชาชนชาวตำบลสวายต้องขอขอบพระคุณทาง วช. และคณะทีมงานอาจารย์จากมหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ ที่ได้นำโครงการดี ๆ มาสานต่อความเป็นพื้นถิ่นด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวสวายเพื่อผลักดันให้เกิดความโดดเด่นทางด้านนวัตกรรมการท่องเที่ยวเชิงชุมชน ประชาชนได้รับความรู้ที่เป็นประโยชน์ในการประกอบอาชีพเพิ่มรายได้ระดับครัวเรือน อบต.สวายและประชาชนตำบลสวายมีความตั้งมั่นและยินดีที่จะสานต่อโครงการนี้ให้เกิดผลสัมฤทธิ์กับประชาชนในพื้นที่และจะร่วมมือกันยกระดับมาตรฐานการท่องเที่ยวในตำบลสวายให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวและเป็นแนวหน้าเมืองแห่งการท่องเที่ยวของจังหวัดสุรินทร์ต่อไป
ดร.ศิวาพร พยัคฆนันท์ หัวหน้าโครงการฯ กล่าวว่า ชาวบ้านในชุมชนสวาย ประกอบอาชีพเกษตรกรรมโดยมีภูมิปัญญาที่สืบทอดจนเป็นกิจกรรมที่อยู่ในวิถีชุมชน และมีวิถีการทอผ้าไหมทอมือกี่โบราณ มีจำนวนครัวเรือนกว่า 1,500 ครัวเรือนเกี่ยวข้องกับกระบวนการทอผ้าไหม ผลงานเอกลักษณ์ของชุมชนคือ ผ้าไหมมัดหมี่ทอยกดอก 6 ตะกอ โดยเกิดจากความบรรจงในการมัดหมี่เป็นผ้าหลายร้อยลวดลายรวมกับเทคนิคการยกดอกและเพิ่มความประณีตด้วยการเก็บริมผ้า ทำให้ผ้าไหมชุมชนสวายเป็นผ้าไหมที่มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จัก โดดเด่นด้านความสวยงามและคุณภาพจากวิถีวัฒนธรรมช่างทอได้พัฒนาเป็น "การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม" ร่วมจัดการท่องเที่ยวโดยเครือข่ายช่างทอ ผ่านโครงการยกระดับศักยภาพการท่องเที่ยวโดยชุมชนเชิงนวัตกรรมเพื่อสร้างคุณค่าอัตลักษณ์พื้นถิ่นด้วยภูมิปัญญาและนวัตกรรมบนฐานเศรษฐกิจ BCG ที่ วช. ให้การสนับสนุน ได้ช่วยขับเคลื่อนและยกระดับภูมิปัญญาของท้องถิ่นและนวัตกรรมบนฐานเศรษฐกิจ BCG สามารถผลักดันพื้นที่ต้นแบบชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เศรษฐกิจฐานรากชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน
ภายในงาน คณะนักวิจัยได้นำผู้บริหารและผู้ทรงคุณ วช. เยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ผ้าทอจากเครือข่ายช่างทอกลุ่มถนนสายไหม เครือข่ายช่างทอ กลุ่มวิสาหกิจตลาดไหมใต้ถุนเรือน กลุ่มเรือนร้อยไหม กลุ่มหัตถกรรมสตรีทอผ้าไหมบ้านสวาย กลุ่มอารยธรรมไหมสวาย และโรงเรียนช่างทอใต้ถุนเรือน ซึ่งเป็นเครือข่ายช่างทอที่เข้าร่วมเป็นสมาชิกของกลุ่มกิจการเพื่อสังคม โครงการดังกล่าวได้ทำให้คนในชุมชนเกิดความรักความภาคภูมิใจในภูมิปัญญาโบราณที่ได้รับการสืบทอด กระตุ้นให้เกิดการอนุรักษ์ สืบสานจากรุ่นสู่รุ่นเพื่อให้วิถีวัฒนธรรมช่างทอคงอยู่ในชุมชนสวายตราบนานเท่านาน
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.