25 พฤศจิกายน 2563 ศาสตรจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมอบรมโครงการอบรมการพัฒนาผู้บริหารระดับกลางและระดับสูง คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏทั่วประเทศ รุ่นที่ 1 พร้อมทั้งบรรยายพิเศษ เรื่อง นโยบายและแผนการบริหารมหาวิทยาลัยกลุ่มราชภัฏภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ณ ห้องประชุมศาสตราจารย์ประเสริฐ ณ นคร สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษาฯ อาคารถนนศรีอยุธยา โดยมีนายสำราญ รอดเพชร ผู้ช่วยรัฐมนตรี ผู้บริหารและผู้เข้ารับการอบรมเข้าร่วมรับฟัง
รมว.อว. กล่าวตอนหนึ่งว่า มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ของราชภัฏควรจะมีลักษณะพิเศษ มีความโดดเด่นเป็นของตนเอง จะต้องหาความเป็นมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์แบบมหาวิทยาลัยราชภัฏ เอาปัญหาของพื้นที่ชุมชนและประเทศเป็นที่ตั้ง เราก็จะเป็นมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์อีกแบบหนึ่ง ไม่ควรนำเข้าความรู้ มุมมอง นักคิด นักวิชาการของตะวันตกเข้ามามากและละเลยการสร้างองค์ความรู้ใหม่ การหาความรู้และการสร้างทฤษฎีใหม่ๆ ซึ่งมาจากประสบการณ์ของไทย และส่งออกความรู้ออกไปให้แก่นานาชาติ จะต้องหานักคิด นักวิชาการแบบไทย พยายามเอาไปแทนที่ความคิดของตะวันตก และที่สำคัญคือ ต้องบวกกับความคิดตะวันออกแบบไทยเราให้มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) นำเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงไปโยงเข้ากับเศรษฐกิจยั่งยืน ซึ่งเป็นคำขวัญของสหประชาชาติ แล้วยกระดับขึ้นเป็นทฤษฎี เผยแพร่ทั้งในภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ต่างประเทศและสำนักพิมพ์ไทย ราชภัฏเราทำเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง เราจะต้องสร้างแนวคิด สร้างทฤษฎีขึ้นมา ถอดการปฏิบัติยกให้เป็นทฤษฎีเช่นนี้ก็จะเป็นมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์แบบที่อยากจะเห็น
นอกจากนั้นเราจะต้องมีโลกทัศน์ของมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ในเชิงบวก ประเทศไทยเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จประเทศหนึ่งในโลก เป็นประเทศพิเศษเพราะเรารักษาเอกราช เราพัฒนาและปฏิรูปมาได้ด้วยคนไทยเอง นอกจากนั้นประเทศไทยยังมีขนาดเศรษฐกิจในลำดับโลก หากนับเป็นเงินจัดอยู่ในอันดับที่ 20 ของโลก นับที่กำลังซื้ออยู่ลำดับที่ 19 ของโลก ทั่วโลกจัดระดับประเทศไทยเป็นประเทศรายได้ปานกลางระดับบน เป็นประเทศที่คนทั่วโลกรู้จัก เป็นมหาอำนาจทางการท่องเที่ยว การผลิตอาหาร มีการแพทย์และสาธารณสุขอยู่ในอันดับโลก การแพทย์ ถ้ามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ได้เข้าใจแบบนี้ก็จะมีโลกทัศน์ที่เห็นประเทศในเชิงบวก
กระทรวง อว. มีความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรามีสถาบันวิจัยและหน่วยงานสนับสนุนทุน ที่ให้ชาว มรภ.เข้ามาใช้ทรัพยากรในกระทรวงได้ มรภ.ควรจะนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์มายกระดับเศรษฐกิจพอเพียงให้มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น อย่าสอนแต่เพียงอย่างเดียว ควรจะต้องทำงานวิจัยควบคู่กันไป นักวิจัยต้องวิจัยไปสู่เป้าหมายร่วมของคณะ ทุกสาขาวิชาต้องมาร่วมกันคิดว่าเป้าหมายของเราคืออะไร กองทัพใหญ่ของเราจะขับเคลื่อนไปทางไหน ต้องเอาชนะด้วยจุดแข็งที่เรามี
“มหาวิทยาลัยราชภัฏมีความพิเศษเรื่องหนึ่งคือ พระเจ้าอยู่หัวทรงสนพระทัยราชภัฏที่สุด ราชภัฏก็ต้องช่วยงานประเทศให้มากขึ้น ช่วยงานพระราชาให้มากขึ้น ให้รู้จักกตัญญู เราต้องเป็นตัวอย่างให้เด็กในเรื่องคุณธรรม ต้องมีจุดยืนที่มั่นคง อย่าคล้อยตามสังคม การศึกษาคือการที่ทำให้ทัศนะของคนส่วนใหญ่ กลายเป็นทัศนะที่มีคุณธรรม มีความรู้ มีปัญญา” รมว.อว. กล่าวในตอนท้าย
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.