เมื่อวันที่ 16 ส.ค. นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “การสนับสนุนการใช้ผลิตภัณฑ์และบริการทางการแพทย์ที่ผลิตในประเทศ ด้วยองค์ความรู้วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม“ ระหว่าง นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และ รศ.ดร.ปัทมาวดี โพชนุกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) โดยมี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ศ.เกียรติคุณ ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ประธานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พญ.เพชรดาว โต๊ะมีนา ที่ปรึกษา รมว.อว. เข้าร่วมงาน ณ ห้องสุขุมวิท 2 ชั้น 3 โรงแรม JW Marriott Bangkok
นางสาวศุภมาส กล่าวว่า รัฐบาลมุ่งพัฒนาประเทศไทย ให้เป็นศูนย์กลางเมืองแห่งอุตสาหกรรมระดับโลก ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่อนาคตที่ยั่งยืน ด้วยนโยบาย IGNITE THAILAND ของท่านนายกรัฐมนตรี นโยบายหนึ่งคือ การขับเคลื่อนและจุดพลังศักยภาพประเทศไทย สู่การเป็นศูนย์กลางด้านการแพทย์และสุขภาพ ที่มีความเป็นเลิศและมีชื่อเสียงระดับโลก โดยมีจุดขายคือ การบริการทางการแพทย์ที่มีประสิทธิภาพ และมาตรฐานสากล ค่าใช้จ่ายสมเหตุสมผล และบุคลากรทางการแพทย์มีความเชี่ยวชาญ กระทรวง อว. มีนโยบายมุ่งเน้นการวิจัยและนวัตกรรม คือ "วิจัย-นวัตกรรมดี ตอบโจทย์ ตรงความต้องการ" และมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ ด้วยองค์ความรู้วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร เพื่อให้ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางทางการแพทย์และสุขภาพมูลค่าสูง มีการสนับสนุนตลอดห่วงโซ่คุณค่า ตั้งแต่ระดับห้องปฏิบัติการ สู่ระดับอุตสาหกรรม รวมไปถึงการสนับสนุนระบบนิเวศ และโครงสร้างพื้นฐาน ที่เอื้อต่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ให้ได้มาตรฐานในระดับสากล อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานดังกล่าวจะบรรลุเป้าหมายได้ จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายภาคส่วน โดยเฉพาะจากกระทรวงสาธารณสุข
“ดิฉันมั่นใจว่า ความร่วมมือการสนับสนุนการใช้ผลิตภัณฑ์ และบริการทางการแพทย์ที่ผลิตในประเทศ ด้วยองค์ความรู้วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมในวันนี้ จะเป็นก้าวสำคัญ สู่การเป็นศูนย์กลางด้านการแพทย์และสุขภาพ อย่างยั่งยืนบนฐานทรัพยากรของประเทศ และสามารถสร้างผลกระทบต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ ที่เติบโตอย่างมีเสถียรภาพ สามารถแข่งขันได้ในระดับโลก เรามาร่วมกันแสดงพลังและความมุ่งมั่น ในการเป็นศูนย์กลางด้านการแพทย์และสุขภาพ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกคน สร้างอนาคตที่ยั่งยืนและมั่นคงให้กับประเทศของเราด้วยกัน” รมว.อว. กล่าว
ด้าน นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การลงนามในบันทึกข้อตกลงในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาระบบการแพทย์และสาธารณสุขของประเทศ สู่การเป็นศูนย์กลางด้านการแพทย์และสุขภาพ หรือ Wellness & Medical Hub ซึ่งเป็นหนึ่งในวิสัยทัศน์ IGNITE Thailand ที่จะช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน โดยเชื่อมั่นว่าจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถด้านการให้บริการทางการแพทย์ที่ครอบคลุมและมีคุณภาพสูง ช่วยลดภาระทางการเงินของภาครัฐและประชาชนในการเข้าถึงบริการสุขภาพที่ได้มาตรฐาน ช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมทางการแพทย์และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ พร้อมเพิ่มโอกาสในการขยายตลาดผลิตภัณฑ์และบริการทางการแพทย์ของประเทศ ที่จะสร้างความมั่นใจในคุณภาพของผลิตภัณฑ์และการบริการที่ผลิตได้ภายในประเทศ รวมทั้งสามารถลดการพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศ ตลอดจนสร้างงานและรายได้ให้กับคนไทย
ขณะที่ ศ.เกียรติคุณ ดร.นพ.สิริฤกษ์ กล่าวว่า การแพทย์และสุขภาพเป็นพื้นฐานที่สำคัญอย่างหนึ่งของการพัฒนาประเทศ อีกทั้งวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน 2030 ถือเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเป้าหมายในการยกระดับสุขภาพของประชาชนไทย รวมถึงพัฒนาต่อยอดไปสู่ความเป็นเลิศในระดับสากลและเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเป้าหมายในการให้เป็นประเทศที่มีระบบสุขภาพดี 1 ใน 3 ของเอเชีย ที่ผ่านมา กองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กองทุน ววน.) ได้สนับสนุนงบประมาณการวิจัยด้านการแพทย์และสุขภาพ กว่า 12,000 ล้านบาท ภายใต้การบริหารของ สกสว. และผ่านการจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยบริหารและจัดการทุนสถาบันการศึกษาภาครัฐ-เอกชน และหน่วยรับงบประมาณนอกกระทรวง อว. เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและยกระดับความมั่นคงทางสุขภาพของประชาชน โดยหวังให้มีผลกระทบที่เกิดจากงบประมาณวิจัยด้านการแพทย์และสุขภาพมากกว่างบที่ลงทุน ทั้งในมิติการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ลดการนำเข้าจากต่างประเทศ และมิติสังคมที่ช่วยให้ประชาชนเข้าถึงเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ เพื่อมุ่งยกระดับประเทศไทยสู่ศูนย์กลางเมืองแห่งอุตสาหกรรมระดับโลก
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.