วันที่ 27 เม.ย.68 น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พร้อมด้วย นายศุภชัย ใจสมุทร ผู้ช่วย รมว.กระทรวง อว. ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวง อว. และผู้บริหารกระทรวง อว. ลงพื้นที่จังหวัดนครพนม ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2 (นครพนม สกลนคร มุกดาหาร) โดยช่วงเช้าเดินทางไปยังสำนักงานเทศบาลตำบลนาแก อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม เพื่อเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจประชาชน พร้อมติดตามการดำเนินงานของหน่วยงานในสังกัดกระทรวง อว. ในการสนับสนุนการพัฒนาพื้นที่ โดยมีนายชูกัน กุลวงษา สส.จังหวัดนครพนม เขต 4 พรรคภูมิใจไทย หรือนักการเมืองคนยาก นายแพทย์อลงกต มณีกาศ สส.จังหวัดนครพนม เขต 3 พรรคภูมิใจไทย หรือหมอขวัญใจคนยาก มาต้อนรับ ขณะเดียวกัน ก็มีประชาชนทั้งจากอำเภอนาแก วังยาง ปลาปาก และอำเภอใกล้เคียงมาร่วมงานอย่างคับคั่ง โดยกระทรวง อว.ได้นำนิทรรศการจากหน่วยงานต่างๆ มาจัดแสดง และมีหน่วยแพทย์เคลื่อนที่บริการประชาชนมาตรวจสุขภาพแผนไทย โดยทีมโรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยสกลนคร (หลวงปูแฟ๊บ สุภัทโท) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขต สกลนคร มีบริการตรวจวัดสายตา โดย อสม. บริการซ่อมอุปกรณ์ไฟฟ้าและบริการตัดผม โดยพัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัด
ทั้งนี้ นายชูกัน ได้เป็นตัวแทนของประชาชนเขต 4 จังหวัดนครพนม กล่าวถึงความต้องการของประชาชนที่อยากจะให้กระทรวง อว.เข้ามาช่วยพัฒนา ว่า นาแก เป็นอำเภอประวัติศาสตร์ทางอุดมการณ์ ทางความคิด มี 12 ตำบล ประชากรประมาณ 8 หมื่นคน การพัฒนาอำเภอนาแกที่ผ่านมายังด้อยประสิทธิภาพ เพราะไม่มีงบประมาณ แต่อำเภอนาแกมีของดีมากมาย ทั้งการท่องเที่ยวในเชิงพระพุทธศาสนา การท่องเที่ยวในเชิงประวัติศาสตร์และร่องรอยการต่อสู้ในพื้นที่ ประชาชนอยากจะได้งบประมาณมาพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวที่ชื่อว่า ดานสาวคอย ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณวัดภูพานอุดมธรรม บนเทือกเขาภูพาน ตำบลนาแก อำเภอนาแก เพื่อให้เป็นแลนด์มาร์คแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ดานสาวคอยเป็นตำนานรักของหนุ่มสาวที่เข้าร่วมต่อสู้ทางอุดมการณ์ ดานสาวคอยมีทิวทัศน์ที่สวยงาม และเป็นเส้นทางผ่านเมื่อจะไปกราบพระธาตุพนม และไปดูสาวงามที่อำเภอเรณูนคร อีกจุดหนึ่งที่ต้องการให้มีการพัฒนาคือ หุบอีเลิด ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และนิเวศวิทยา หุบอีเลิดเคยเป็นศูนย์กลางฐานบัญชาการของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย อยากให้นำประวัติศาสตร์เหล่านั้นกลับมาให้คนรุ่นใหม่ได้พบ ได้เห็น ได้เรียนรู้ การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทั้งสองแห่งจะช่วยแก้ปัญหาของประชาชนให้พี่น้องชาวนาแกได้มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการท่องเที่ยว จากการค้าการขาย นอกจากการทำนาและทำสวนแล้ว
จากนั้น นายศุภชัย ใจสมุทร กล่าวว่า กระทรวง อว. กำลังทำให้ความยากจนของประชาชนหายไป ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ จากสิ่งที่กระทรวง อว. มีคือองค์ความรู้ด้านอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ถ้าประชาชนมีองค์ความรู้ จะทำให้เกิดการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน เราไม่มีความสามารถที่จะแจกเงินให้กับประชาชน แต่เรามีความรู้ที่จะทุ่มเทเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนทั่วประเทศ
ต่อมา น.ส.ศุภมาส กล่าวว่า กระทรวง อว. มีมหาวิทยาลัยนครพนม มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร มหาวิทยาลัยทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสกลนคร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ สกลนคร และวิทยาลัยชุมชนมุกดาหาร เป็นองคาพยพที่สำคัญของกระทรวง อว. ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ เคียงข้างพี่น้องประชาชน และพร้อมจับมือก้าวผ่านความท้าทายและอุปสรรคต่าง ๆ ตลอดจนมุ่งพัฒนาพื้นที่ให้มีความเข้มแข็งทางสังคมและเศรษฐกิจตลอดมา พวกเรามีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนและส่งเสริมการผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพ สนับสนุนงานวิจัยและนวัตกรรมในพื้นที่ ผ่านกลไกของมหาวิทยาลัยในพื้นที่ ผลักดันให้ประชาชนทุกคนมีโอกาสเข้าถึงการศึกษาและการพัฒนาทักษะที่จำเป็นต่อการทำงาน ผลักดันงานวิจัยสู่การพัฒนาอาชีพให้กับพี่น้องประชาชน สร้างรายได้ ลดรายจ่าย ยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ให้กับประชาชนอย่างยั่งยืน
“กระทรวง อว. มาในวันนี้ ไม่ได้มามือเปล่า แต่มาส่งมอบผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่ช่วยส่งเสริมอาชีพและช่วยแก้ปัญหาปากท้องให้กับพี่น้องประชาชนได้ อาทิ นวัตกรรมโดรนเกษตร เครื่องตรวจมวลกระดูก ปุ๋ยอินทรีย์ลดตอซัง ผลิตภัณฑ์น้ำหมักออร์แกนิค เครื่องแปรรูปสมุนไพร และไก่สายพันธุ์ศรีโครตบูรณ์ เป็นต้น ดิฉันขอให้ทุกท่านเชื่อมั่นในศักยภาพของตนเอง ของผู้แทนชุมชน และของหน่วยงานในพื้นที่ที่จะสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีให้เกิดขึ้นได้ ขอให้ทุกคนมีความอดทน มีกำลังใจ และมุ่งมั่นในการเดินหน้าต่อไปด้วยกัน” น.ส.ศุภมาส กล่าว
จากนั้น น.ส.ศุภมาส ได้มอบผลงานนวัตกรรมโดรนเกษตร ให้กับวิทยาลัยการอาชีพนาแก เครื่องตรวจมวลกระดูก ให้กับ รพ.สต.บ้านนาแก ปุ๋ยอินทรีย์ลดตอซัง ผลิตภัณฑ์น้ำหมักออร์แกนิค เครื่องแปรรูปสมุนไพร ไก่สายพันธุ์ศรีโครตบูรณ์ให้กับผู้นำชุมชน นอกจากนี้ ยังมอบถุงบำรุงชีพให้กับประชาชนผู้ด้อยโอกาสจำนวน 50 ชุด ตลอดจนมอบของที่ระลึก อาทิ สเปรย์ยาน้ำกันยุง ยาหม่องน้ำสูตร วศ. ยาสีฟันสมุนไพร ไมโครไคโตซาน และโพลิเมอร์ดูดซึมน้ำสูง ชุดตรวจพยาธิใบไม้ในตับแบบรวดเร็ว ตะเกียบไม้ไผ่และถุงผ้าขาวม้า ดินปลูกหนองหาร ยาแคปซูลฟ้าทะลายโจร และยาแคปซูลขมิ้นชั้น จำนวน 700 ชุดแก่ประชาชน ที่สำคัญ ยังมอบแว่นสายตาให้กับประชาชน จำนวน 700 ชิ้น
เผยแพร่ข่าว : นางสาวเยาวลักษณ์ ทับช้างโท
สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
กลุ่มสื่อสารองค์กร
โทรศัพท์ 0 2333 3700
E-mail : pr@mhesi.go.th
Facebook : MHESIThailand
Instagram : mhesithailand
Tiktok : @mhesithailand
X (Twitter) : @MHESIThailand
YouTube : @MHESIThailand
Call Center 1313
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.