เมื่อวันที่ 10 พ.ย. นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานศูนย์ฉายรังสี สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สทน. พร้อมแถลงข่าวการยกระดับสู่ศูนย์ฉายรังสีครบวงจร และผลการตรวจวิเคราะห์เชื้อยาดมสมุนไพรเพื่อให้ผลิตภัณฑ์ปลอดเชื้อ และการนำลำอิเล็กตรอน (E-Beam) มาให้บริการแก่ผู้ประกอบการสมุนไพรไทย โดยมี โดยมี นางสาวพิมพ์พร ชีวานันท์ เลขานุการ รมว.อว. รศ.ดร.ธวัชชัย อ่อนจันทร์ ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ดร.กนกพร บุญศิริชัย รองผู้อำนวยการ สทน. ดร.พรสวรรค์ โรจนพานิช รองผู้อำนวยการ สทน. น.ส.กนกรัชต์ ตียพันธ์ ผศป. และรักษาการรองผู้อำนวยการ สทน. และคณะผู้บริหาร ตลอดจนผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย เข้าร่วม ณ อาคารฉายรังสีอิเล็กตรอน ศูนย์ฉายรังสี เทคโนธานี คลองห้า จังหวัดปทุมธานี
นายสุรศักดิ์ กล่าวว่า สทน. ได้ยกระดับศูนย์ฉายรังสีขึ้นเป็น “ศูนย์รังสีครบวงจร” ซึ่งมีโครงสร้างพื้นฐานครบถ้วน ทั้งเทคโนโลยีรังสีแกมมา อิเล็กตรอน และรังสีเอกซ์ รวมถึงห้องปฏิบัติการจุลชีววิทยาที่สามารถตรวจเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรคที่สำคัญ และกำหนดปริมาณรังสีก่อนและหลังการฉายได้ในที่เดียว ซึ่งนับเป็นโรงงานฉายรังสีแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทยที่ให้บริการในรูปแบบนี้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเราจำเป็นต้องใช้วิทยาศาสตร์เป็นเครื่องมือสำคัญในการยกระดับมาตรฐานสินค้าไทย เพื่อสร้างความปลอดภัย ความเชื่อมัน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก ดังเช่นตลาดสมุนไพรของไทย ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าสูงกว่าหกหมื่นล้านบาทต่อปีและมีแนวโน้มเติบโตได้ถึงหนึ่งแสนล้านบาทในอนาคตอันใกล้ ดังนั้นการนำเทคโนโลยีการฉายรังสีมาใช้ยกระดับคุณภาพสินค้าให้ได้ตามมาตรฐานสากล จะเป็นบทบาทสำคัญในการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสมุนไพรไทยให้เติบโตและแข่งขันในตลาดโลกได้
นายสุรศักดิ์ กล่าวต่อว่า ศูนย์ฉายรังสีของ สทน. เป็นบริการของภาครัฐเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้เข้าถึงเทคโนโลยีที่ทันสมัย ซึ่งดำเนินงานโดยทีมนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีนิวเคลียร์และรังสี ซึ่งได้รับการฝึกอบรมและรับรองตามมาตรฐานสากล ศูนย์แห่งนี้ยังได้รับการรับรองมาตรฐานระดับโลกในด้านการตรวจวิเคราะห์ทางจุลชีววิทยา และการควบคุมคุณภาพการฉายรังสีเป็นหลักประกันถึงความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของบริการทุกขั้นตอน โดยนักวิจัยและบุคลากร สทน. ได้มุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีฉายรังสีให้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญของประเทศ ในการยกระดับสมุนไพรไทยจากภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่ผลิตภัณฑ์มาตรฐานระทับโลก ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นความสำเร็จของการพัฒนาสมุนไพรไทยสู่อนาคตที่ยิ่งยืน และจะทำให้สมุนไพรไทยกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งภูมิปัญญาไทยที่ก้าวไกลในระดับโลก ภายใต้การสนับสนุนของวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมไทย
“อว. จะสนับสนุน สทน. อย่างเต็มที่เพื่อขยายบริการของศูนย์ฉายรังสีครบวงจรให้ครอบคลุมทั่วภูมิภาคโดยมีแผนผลักดันให้เป็น Quick Win ภายใต้ยุทธศาสตร์ยกระดับอุตสาหกรรมและ SMEs ของกระทรวง พร้อมส่งเสริมให้สมุนไพรไทยก้าวสู่การเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ที่มีคุณภาพและมาตรฐานระดับโลก” รมว.อว. กล่าว
ด้าน รศ.ดร.ธวัชชัย กล่าวว่า จากการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ยาดมสมุนไพรที่วางจำหน่ายในท้องตลาดพบว่า มีเชื้อจุลินทรีย์ปนเปื้อนเกินกว่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนด สทน. จึงได้ทดสอบฉายรังสีอิเล็กตรอนและรังสีแกมมาในปริมาณที่เหมาะสม สามารถลดปริมาณเชื้อ ให้อยู่ในระดับต่ำมากจนเป็นไปตามมาตรฐาน ทำให้ผลิตภัณฑ์กลับมามีคุณภาพและความปลอดภัยตามมาตรฐานกฎหมาย ทั้งยังได้วิเคราะห์ถึงต้นตอของปัญหาและพบว่าการปนเปื้อนเกิดขึ้นจากวัตถุดิบสมุนไพรแห้ง หากได้นำวัตถุดิบสมุนไพรแห้งมาผ่านกระบวนการฉายรังสีก่อนนำไปผลิต แนวทางนี้ไม่เพียงแต่จะกำจัดเชื้อได้อย่างหมดจดแต่ยังเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพ กลิ่น หรือคุณสมบัติอันเป็นเอกลักษณ์ของสมุนไพรไทย ที่สำคัญ เทคโนโลยีนี้มีความปลอดภัยสูงสุด ไม่มีรังสีตกค้าง และยังช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถควบคุมต้นทุนและคุณภาพได้อย่างแม่นยำอีกด้วย
ทำข่าว : นางสาวธนิดา วิมลเศรษฐ
ถ่ายภาพ : นายสุรกิจ แก้วมรกต
สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
กลุ่มสื่อสารองค์กร
โทรศัพท์ 0 2333 3700
E-mai l: pr@mhesi.go.th
Facebook : MHESIThailand
Instagram : mhesithailand
Tiktok : @mhesithailand
X (Twitter) : @MHESIThailand
YouTube : @MHESIThailand
Call Center 1313
![]()
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.