แค่ไหน ถึงจะมีส่วนได้เสีย
เรื่องนี้ผู้ขอขอสำเนาเอกสารไปเพื่อใช้ในการปกป้องคุ้มครองสิทธิของตนเอง แต่กว่าจะได้ก็ไม่ทันการในชั้นคณะกรรมการ คงต้องไปใช้ในชั้นศาลต่อไป แต่ก็อย่าเพิ่งทิ้ง เก็บไว้ใช้เป็นตำราอ้างอิงได้
นายเชื่อใจคบหากับนางบี เพราะนางบีบอกว่าแยกทางกับสามี เลี้ยงลูกเองคนเดียว และเป็นฝ่ายเต็มใจจะคบหากับนายเชื่อใจ รวมทั้งขอให้นายเชื่อใจจดทะเบียนสมรสด้วย สักระยะหนึ่งเมื่อไปกันไม่ได้นายเชื่อใจก็จะเลิกคบ นางบีจึงร้องเรียนต่อหน่วยงานของนายเชื่อใจทุกระดับชั้น จนถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง จึงมีหนังสือถึงสำนักทะเบียนกลางขอข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานภาพการสมรสของนางบีว่ายังมีทะเบียนสมรส หรือได้จดทะเบียนหย่าแล้วหรือไม่ และขอสำเนาเอกสารหลักฐานทะเบียนการหย่าเพื่อใช้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง พร้อมแนบสำเนาบัตรแสดงตัว สำเนาคำสั่ง ๒ คำสั่งไปให้ และยืนยันว่าจะใช้ต่อคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงเท่านั้น แต่สำนักทะเบียนกลางมีหนังสือแจ้งปฏิเสธว่า ข้อมูลดังกล่าวประกอบไปด้วยข้อมูลตัวบุคคลตามกฎหมายการทะเบียนราษฎร ห้ามเปิดเผย และนายเชื่อใจไม่ได้เป็นผู้มีส่วนได้เสียหรือเกี่ยวข้องกับข้อมูล จึงเปิดเผยให้ไม่ได้ นายเชื่อใจจึงมีหนังสือลงวันที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๖๒ อุทธรณ์ต่อคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
ในการพิจารณาของคณะกรรมการวินิจฉัย ฯ สำนักทะเบียนกลางมีหนังสือส่งเอกสารไปประกอบการพิจารณาและชี้แจงเหมือนที่มีหนังสือแจ้งนายเชื่อใจไปแล้ว พร้อมยกข้อกฎหมายพระราชบัญญัติการทะเบียนราษฎร พ.ศ. ๒๕๓๔ ว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคลจะเปิดเผยได้ต่อเมื่อผู้มีส่วนได้เสียจะมีนิติสัมพันธ์ด้วย และก็ยังยืนยันว่านายเชื่อใจไม่ได้เป็นผู้มีส่วนได้เสียกับนางบีที่เป็นเจ้าของข้อมูล จึงปฏิเสธไป
คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารพิจารณาก่อนว่า นายเชื่อใจมีเหตุผลเพียงพอ ที่จะเข้าถึงข้อมูลดังกล่าวได้หรือไม่ รับฟังได้ว่านายเชื่อใจต้องการใช้ข้อมูลเพื่อชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาตามที่ถูกร้องเรียนต่อคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง ด้วยเหตุว่าไปมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง พิจารณาจากประโยชน์ได้เสียของนายเชื่อใจและความสัมพันธ์ระหว่างนายเชื่อใจกับนางบีเห็นว่ามีเหตุผลเพียงพอที่จะเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของนางบีได้ การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารจึงไม่เป็นการรุกล้ำสิทธิส่วนบุคคลของบุคคลอื่นโดยไม่สมควร ตามมาตรา ๑๕ (๕) แต่อย่างใด จึงมีหนังสือลงวันที่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๖๓ ส่งคำวินิจฉัยให้สำนักทะเบียนกลางเปิดเผยข้อมูลข่าวสารการจดทะเบียนสมรสของนางบีให้นายเชื่อใจทราบได้ พร้อมทั้งให้สำเนาที่มีคำรับรองถูกต้อง โดยกำหนดเงื่อนไขให้ใช้เฉพาะในการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงเท่านั้น
ขอให้หน่วยงานเก็บเรื่องนี้เป็นกรณีศึกษาอ้างอิงได้เลยครับ ไม่ใช่ปฏิเสธไว้ก่อนเพราะเจ้าตัว ก็ไม่เข้าใจจนถึงวันนี้ว่า โดนเข้าไปอย่างหนักขนาดนี้แล้ว ข้อกล่าวหาก็ชัดเจนแล้ว ยังไม่มีสิทธิ์เป็นผู้มีส่วนได้เสียตามคำนิยามของกฎหมาย ก็ไม่รู้ว่าต้องเอาอะไรมาพิสูจน์คำว่า มีส่วนได้เสีย มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ หารือไปได้ที่สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ๐ ๒๒๘๓ ๔๖๗๘ www.oic.go.th
(ที่ สค ๖๐/๒๕๖๓)
ข้อมูล : สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
รูปภาพ : https://www.freepik.com/free-vector/business-concept-with-man-climbing-bars_2113695.htm#page=1&query=%20Gain&position=2
เผยแพร่ข่าว : นายธัชนนท์ บุญหล้า
ส่วนสื่อสารองค์กร สำนักบริหารกลาง
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
โทรศัพท์ 0 2333 3700 ต่อ 3728 - 3732 โทรสาร 0 2333 3834
Facebook : @MHESIThailand
Twitter : @MHESIThailand
Call Center โทร.1313
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.