แอบดูครูกับลูก
มีข่าวครูตีเด็กจนน่าจะเกินเหตุ ผู้ปกครองรับไม่ได้ ความมาแตกตอนที่ขอดูกล้องวงจรปิดนี่แหละ รวมไปถึงค่าเทอมแพง ๆ ก็เลยขอดูข้อมูลเรื่องการจัดการเรียนการสอนรวมไปด้วย
นางต่ายได้มีหนังสือตามแบบคำขอข้อมูลข่าวสารถึงโรงเรียนมูลนิธิศรีอุบลรัตนาราม ขอสำเนาขอตรวจดูและถ่ายสำเนาเอกสารเกี่ยวกับการดำเนินงานของโรงเรียน จำนวน ๔ รายการ คือ ๑) รายละเอียดการจ้างครูอัตราจ้างทั้งคนไทยและครูต่างชาติ พร้อมเอกสารการสมัครของทุกคน ๒) บันทึกการประชุม เรื่อง การจัดให้มีโครงการห้องเรียนพิเศษ MAP และ EIS การขออนุมัติโครงการ ๓) ขอดูกล้องวงจรปิดและภาพที่บันทึก ๔) รายละเอียดการซ่อมแซมห้องน้ำ แต่โรงเรียนมูลนิธิศรีอุบลรัตนาราม มีหนังสือแจ้งปฏิเสธด้วยเหตุผลว่าเป็นข้อมูลข่าวสารที่ไม่ต้องเปิดเผยตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ นางต่ายจึงมีหนังสืออุทธรณ์ต่อคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
ในการพิจารณาของคณะกรรมการวินิจฉัย ฯ โรงเรียนมูลนิธิศรีอุบลรัตนารามส่งข้อมูล รายการที่ ๑, ๒ และ รายการที่ ๔ ไปประกอบการพิจารณาและชี้แจงว่า การขอดูเอกสารรายการที่ ๑ การรับสมัครครู ในขณะที่นายคณิตไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ ได้รับครูคนไทย ๖ คน ครูต่างชาติ ๔ คน และข้อมูลข่าวสารรายการที่ ๔ เรื่องซ่อมแซมห้องน้ำก็ซ่อมเสร็จแล้ว ส่วนข้อมูลข่าวสารรายการที่ ๓ ภาพที่บันทึกจากกล้องวงจรปิดระหว่างเดือนมีนาคม ถึงเดือนเมษายน ๒๕๖๓ ไม่สามารถเก็บข้อมูลไว้ได้ เพราะได้ล่วงเลยเวลาไปนานแล้ว
คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารพิจารณาเห็นว่า ข้อมูลข่าวสารที่นางต่ายมีคำขอและโรงเรียนมูลนิธิวัดศรีอุบลรัตนาราม ปฏิเสธการเปิดเผยไปทั้ง ๔ รายการ เมื่อโรงเรียนชี้แจงว่าไม่มีข้อมูลข่าวสารรายการที่ ๓ คือ ข้อมูลที่บันทึกภาพของกล้องวงจรปิด ระหว่างเดือนมีนาคม ถึงเดือนเมษายน ๒๕๖๓ เนื่องจากบันทึกภาพทับข้อมูลเดิมไปแล้ว และกล้องมีความจุเก็บได้เพียง ๒๐ วัน จึงไม่มีข้อมูลที่จะให้ เรื่องนี้จึงไม่ใช่การปฏิเสธไม่เปิดเผยข้อมูลข่าวสาร หากนางต่ายไม่เชื่อว่าเป็นความจริง ก็อาจใช้สิทธิร้องเรียนตามมาตรา ๑๓ ประกอบมาตรา ๓๓ ได้ต่อไป ส่วนข้อมูลข่าวสารรายการที่ ๑ การรับสมัครครูอัตราจ้าง รายการที่ ๒ และรายการที่ ๔ เป็นข้อมูลข่าวสารการปฏิบัติราชการปกติที่เกี่ยวกับการบริหารงานของโรงเรียน และไม่มีข้อความที่เข้าลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใด ตามมาตรา ๑๕ ที่หน่วยงานของรัฐอาจมีคำสั่งมิให้เปิดเผยได้ การเปิดเผยจะแสดงให้เห็นถึงความโปร่งใสตรวจสอบได้ของโรงเรียนมูลนิธิวัดศรีอุบลรัตนาราม จึงเห็นควรเปิดเผยได้ สำหรับข้อมูลข่าวสารรายการที่ ๑ ในส่วนของแบบกรอกใบสมัครลูกจ้างของสถานศึกษาของผู้สมัครทั้งหมด ให้เปิดเผยเฉพาะ ชื่อ นามสกุล ก็เพียงพอที่จะให้ผู้ขอตรวจสอบถึงความโปร่งใส รวมทั้งผู้ขอก็ไม่แสดงเหตุผลว่าต้องการนำข้อมูลข่าวสารในส่วนนี้ไปใช้เพื่อประโยชน์อะไร การเปิดเผยข้อมูลรายละเอียดอื่น ๆ ในใบสมัครงานจะเป็นการรุกล้ำสิทธิส่วนบุคคลของบุคคลอื่นโดยไม่สมควรตามมาตรา ๑๕ (๕) จึงวินิจฉัยให้โรงเรียนมูลนิธิวัดศรีอุบลรัตนาราม เปิดเผยข้อมูลข่าวสารรายการที่ ๑ ในส่วนของประกาศรับสมัครงาน รายการที่ ๒ และรายการที่ ๔ แต่ในส่วนของแบบกรอก ใบสมัครครูอัตราจ้าง ในรายการที่ ๑ ให้เปิดเผยเฉพาะ ชื่อ นามสกุล พร้อมรับรองสำเนาถูกต้องให้ไป ส่วนข้อมูลข่าวสารรายการที่ ๓ ให้ยกอุทธรณ์ เพราะไม่มีเอกสารวัตถุที่จะพิจารณาได้
มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ หารือไปได้ที่สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ๐ ๒๒๘๓ ๔๖๗๘ www.oic.go.th
ข้อมูล : สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
เผยแพร่ข่าว : นายธัชนนท์ บุญหล้า
ส่วนสื่อสารองค์กร สำนักบริหารกลาง
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
โทรศัพท์ 0 2333 3700 ต่อ 3728 - 3732 โทรสาร 0 2333 3834
Facebook : @MHESIThailand
Twitter : @MHESIThailand
Call Center โทร.1313
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.